xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มมะกันฟ้อง ‘Canon’ เรียกค่าเสียหายกว่า 160 ล้าน ยัวะ ‘ปรินเตอร์สแกนไม่ได้’ ถ้าหมึกหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชายชาวอเมริกันยื่นฟ้องบริษัทแคนนอน (Canon) เพื่อเรียกเงิน จำนวน 5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 166 ล้านบาท หลังพบว่าปรินเตอร์แบบ All-in-One ที่ตนซื้อมาใช้สแกนเอกสารไม่ได้หากหมึกใกล้หมด

เดวิด เลียคราฟต์ (David Leacraft) ซึ่งอาศัยอยู่ที่เขตควีนส์ ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงเขตตะวันออกรัฐนิวยอร์ก โดยระบุว่า “ด้วยความสัตย์จริง ปรินเตอร์ All-in-One มันสแกนหรือแฟกซ์เอกสารไม่ได้เลย เมื่อหมึกหมดหรือใกล้จะหมด”

เขารู้สึกว่านี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย และกล่าวหาแคนนอนว่า “หลอกลวงผู้บริโภคด้วยถ้อยคำโฆษณาที่บิดเบือน และไม่เป็นความจริง”

เอกสารคำฟ้องของ เลียคราฟต์ ระบุว่า เขาเพิ่งซื้อปรินเตอร์ Canon รุ่น PIXMA MG2522 ซึ่งเป็นแบบ All-in-One มาจากห้างวอลมาร์ทเมื่อเดือน มี.ค. โดยตั้งใจว่าจะเอามาใช้สแกนเอกสาร และคงจะไม่ตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ตัวนี้หากรู้ว่ามันจะต้องมีหมึกอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สแกนเอกสารได้

เลียคราฟต์ ยังไปรวบรวมคำถามจากผู้ใช้คนอื่นๆ ที่เคยร้องเรียนปัญหานี้ผ่านเว็บบอร์ดของแคนนอน โดยเขาพบว่า ตั้งแต่ปี 2015 มีคนจำนวนมากเข้าไปแสดงความไม่พอใจที่ปรินเตอร์ใช้สแกนเอกสารไม่ได้เมื่อหมึกใกล้จะหมด ขณะที่ตัวแทนของแคนนอนก็ให้คำตอบแค่สั้นๆ ว่า “ไม่มีวิธีแก้ไข”

มาร์ก รีช ทนายความของโจทก์ ชี้ว่า แคนนอนโฆษณาว่าปรินเตอร์ All-in-One รุ่นนี้สามารถพิมพ์ ก๊อบปี้ และสแกนเอกสารได้ และเนื่องจากการสแกนนั้นไม่จำเป็นต้องใช้หมึก ข้อจำกัดที่เกิดขึ้นจึงสะท้อนให้เห็นว่าแคนนอน “บีบบังคับให้ผู้บริโภคต้องซื้อตลับหมึก ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการใช้หมึก หรือพิมพ์เอกสารหรือไม่ก็ตาม”

คำฟ้องระบุด้วยว่า งานนี้น่าจะมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน และเรียกร้องให้แคนนอนจ่ายชดเชยความเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุด ทางแคนนอนยังไม่ได้ออกมาแถลงชี้แจง และยังต้องติดตามกันต่อว่าคดีนี้จะจบอย่างไร

ที่มา : businessinsider, fox6now


กำลังโหลดความคิดเห็น