xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ไม่ปฏิเสธข่าวส่งกองกำลังฝึกทหารไต้หวันมานานนับปี ช่วยเสริมศักยภาพป้องกันตนเองจากจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ ไม่ปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชน ที่ระบุว่า พวกเขาได้ส่งทหารช่วยฝึกฝนกองกำลังทหารในไต้หวันมาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีแล้ว ภารกิจที่มุ่งเสริมศักยภาพการป้องกันตนเองของเกาะแห่งนี้ ท่ามกลางความกังวลที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งที่มีการใช้กำลังอาวุธกับจีน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.) หน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายสิบนาย และกองกำลังทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ไม่ทราบจำนวน เวลานี้กำลังฝึกซ้อมรบให้ทหารกองทัพไต้หวันอย่างลับๆ พร้อมระบุว่า ทหารฝึกซ้อมถูกส่งมาที่ไต้หวันเป็นครั้งแรกในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การปรากฏตัวของทหารอเมริกันเหล่านี้ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนจนกระทั่งล่าสุด

เมื่อถูกสอบถามถึงเรื่องนี้ โฆษกของเพนตากอนไม่ได้ปฏิเสธเกี่ยวกับการฝึกฝนให้กองกำลังไต้หวัน แต่ไม่ขอให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "ปฏิบัติการต่างๆ ความร่วมมือหรือการฝึกฝนอย่างเจาะจง"

"จีนยกระดับความพยายามข่มขู่และกดดันไต้หวัน ในนั้นรวมถึงยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารในบริเวณใกล้เคียงไต้หวัน ซึ่งเราเชื่อว่ากำลังบั่นทอนเสถียรภาพและเพิ่มความเสี่ยงคำนวณพลาด" โฆษกเพนตากอน ระบุ

อดีตเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของสหรัฐฯ รายหนึ่งให้ความเห็นว่า "จากความเข้าใจของผม สหรัฐฯ ดำเนินการฝึกฝนลักษณะนี้มานานหลายปีแล้ว เราแค่ไม่เปิดเผยมัน"

การไม่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงของโฆษกเพนตากอน มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากจีนส่งฝูงบินล่วงล้ำเข้าสู่น่านฟ้าของไต้หวันมากสุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีเครื่องบินรบจีน 56 ลำ บินเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันในวันจันทร์ (4 ต.ค.) ถือเป็นสถิติสูงสุดในวันเดียว ทำให้ยอดรวมการล่วงล้ำในช่วง 4 วันแรกของเดือนตุลาคม อยู่ที่ 149 ลำ

ซู เจิงชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน บอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (8 ต.ค.) เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวสหรัฐฯ ส่งทหารช่วยฝึกฝนกองกำลังไต้หวัน "เรากำลังทำทุกความพยายามเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศของเราและประชาชนของเรา เช่นเดียวกับธำรงไว้ซึ่งสันติภาพในภูมิภาค เรากำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ และเราซาบซึ้งในความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่มีความคิดแบบเดียวกัน"

สหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกจากไต้หวันในปี 1979 ครั้งที่วอชิงตันจัดตั้งความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาได้ผ่านกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวันในปีเดียวกัน ซึ่งกำหนดให้อเมริกาสามารถคงความช่วยเหลือไต้หวัน ธำรงไว้ซึ่งแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศอย่างพอเพียง โดยพาดพิงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับ "การให้ความช่วยเหลือด้านป้องกันตนเองต่างๆ" อย่างเช่นการฝึกฝน

วอชิงตันให้การสนับสนุนด้านการป้องกันตนเองแก่ไทเปมานานหลายทศวรรษ ส่วนใหญ่ผ่านการขายอาวุธ แต่การแผ่ขยายแสนยานุภาพทางทหารอย่างรวดเร็วของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพฤติกรรมยั่วยุมากขึ้นแถวๆ ไต้หวัน สหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องเตรียมพร้อมกองกำลังท้องถิ่นในกรณีที่สถานการณ์เสื่อมทรามเข้าสู่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจริง ตามความเห็นของนักวิเคราะห์

รายงานข่าวเกี่ยวกับการปรากฏตัวของทหารสหรัฐฯ ในไต้หวันสร้างความขุ่นเคืองแก่ปักกิ่ง โดย จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในวันศุกร์ (8 ต.ค.) เรียกร้องวอชิงตัน "หยุดขายอาวุธและความสัมพันธ์ทางทหารกับไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงก่อความเสียหายเพิ่มเติมในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน"

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ดูเหมือนจะไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับไทเป ระหว่างการประชุมทางไกลที่มีแผนจัดขึ้นในปีนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกาเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไต้หวันต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนระหว่างการพบปะกันในเดือนมิถุนายน แต่ปักกิ่งบอกกับวอชิงตันไปว่าให้หยุดแทรกแซงกิจการภายในของปักกิ่ง

(ที่มา : นิกเกอิเอเชีย)


กำลังโหลดความคิดเห็น