ไฟเซอร์ อิงค์ และไบออนเทค เอสอี ยื่นคำร้องขอคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินสำหรับเด็กอายุ 5 ถึง 11 ขวบ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลุ่มอายุที่ยังไม่ได้รับไฟเขียวในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของไฟเซอร์ในวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.)
สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ วางกำหนดการไว้ในวันที่ 26 ตุลาคม สำหรับให้คณะที่ปรึกษาภายนอกประชุมหารือกันเกี่ยวกับคำร้องดังกล่าว เปิดทางความเป็นไปได้ที่ให้เด็กกลุ่มอายุนี้ ซึ่งมีจำนวนราวๆ 28 ล้านคน เริ่มเข้ารับวัคซีน 2 เข็มของไฟเซอร์/ไบออนเทค ไม่นานหลังจากนั้น
"ด้วยเคสผู้ติดเชื้อใหม่ในเด็กในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง การยื่นคำร้องครั้งนี้คือก้าวย่างที่สำคัญในความพยายามของเราในเวลานี้ ในการต่อสู้กับโควิด-19" ไฟเซอร์เขียนบนทวิตเตอร์
ก่อนหน้านี้ วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ สำหรับเด็กอายุ 12 ถึง 15 ปี และได้รับอนุมัติเต็มรูปแบบจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบ สำหรับบุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไป
วัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค เป็น 1 ใน 3 วัคซีนที่ใช้ในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับวัคซีน 2 เข็มของโมเดอร์นาและวัคซีนเข็มเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่วัคซีนทั้ง 2 ตัวยังไม่ได้รับการอนุมัติใช้เต็มรูปแบบไม่ว่าจะกลุ่มอายุใด
การอนุมัติอย่างรวดเร็ววัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค ในเด็กอายุน้อยอาจช่วยบรรเทาความเป็นไปได้ของระลอกการแพร่ระบาดในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า ในขณะที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง และกิจกรรมในร่มต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางการมาเยือนของฤดูหนาว
ทั้งนี้ หากว่าคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ ให้การอนุมัติ วัคซีน 2 เข็มของไฟเซอร์/ไบออนเทคจะกลายเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกที่ได้รับไฟเขียวใช้กับเด็กอายุ 5 ถึง 11 ขวบในสหรัฐฯ
บริษัททั้ง 2 ระบุเมื่อวันที่ 20 กันยายน ว่าวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค ก่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งในอาสาสมัครเด็กอายุ 5 ถึง 11 ขวบ จำนวน 2,268 คนในการทดลองทางคลินิก
ขณะเดียวกัน บริษัททั้ง 2 กำลังอยู่ระหว่างการทดลองวัคซีนในเด็กอายุ 2 ถึง 5 ขวบ และทารกแบะเบาะวัย 6 เดือนถึง 2 ขวบ ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีข้อมูลออกมาในช่วงไตรมาส 4
เจฟฟรีย์ เซียนต์ส ผู้ประสานงานการรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาวเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น ว่าวัคซีนน่าจะพร้อมฉีดอย่างเร็วที่สุดในเดือนพฤศจิกายน รอเพียงขั้นตอนการอนุมัติจากหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบต่างๆ ของรัฐบาลกลาง
ครั้งที่ได้รับการอนุมัติแล้ว เซียนต์ส กล่าวว่า "เราพร้อม เรามีเสบียง เรากำลังทำงานกับรัฐต่างๆ ในการจัดตั้งสถานที่ที่สะดวกสำหรับผู้ปกครองและเด็กที่จะเข้าฉีดวัคซีน ในนั้นรวมถึงตามศูนย์กุมารเวชทั้งหลายและสถานที่ในชุมชน"
สหรัฐฯ เป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลก
ปัจจุบันเด็กคิดเป็น 27% ของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดของสหรัฐฯ และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในจำนวนคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สะท้อนว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในหมู่คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
แม้ว่าเด็กมีโอกาสน้อยที่จะติดเชื้ออาการรุนแรง แต่น้องๆ หนูๆ ยังสามารถแพร่กระจายเชื้อสู่คนอื่นได้ ในนั้นรวมถึงกลุ่มประชากรอ่อนแอที่เสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรง
(ที่มา : รอยเตอร์)