โรงพยาบาลต่างๆ บ้านพักคนชรา และศูนย์สุขภาพทั้งหลาย ได้พักงานเจ้าหน้าที่รวมกว่า 3,000 คนทั่วฝรั่งเศส โทษฐานที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 จากการเปิดเผยของรัฐบาลในวันพฤหัสบดี (16ก.ย.) ในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปกำลังหาทางยกระดับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่
รัฐบาลอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดี (16ก.ย.) เห็นชอบมาตรการต้านโควิด-19 บางอย่างที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บังคับแรงงานทุกคนต้องแสดงข้อพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว มีผลตรวจเป็นลบหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อมาไม่นาน หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเงินและพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก
เนเธอร์แลนด์มีแผนใช้มาตรการแบบเดียวกันแต่บังคับแสดงข้อพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว มีผลตรวจเป็นลบหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อมาไม่นาน เฉพาะกับตอนเข้าไปในบาร์หรือคลับต่างๆ ขณะที่สหราชอาณาจักรเผยว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงจะบังคับฉีดวัคซีนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแถวหน้าและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ในอังกฤษ ส่วนหนึ่งในแผนควบคุมไวรัสในช่วงฤดูหนาว
ในฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ตัดสินใจตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม บังคับใช้บัตรผ่านสุขภาพแบบเดียวกันสำหรับเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ไล่ตั้งแต่ร้านอาหาร ศูนย์ออกกำลังหายและพิพิธภัณฑ์ และบังคับฉีดวัคซีนสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนได้อย่างมาก
ด้วยคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนบุคลากรด้านสาธารณสุขตามโรงพยาบาลต่างๆ และบ้านพักคนชรามีผลบังคับใช้ในวันพุธ (15 ก.ย.) ผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมเริ่มสัมผัสได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนนั้นถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Nice Matin รายงานว่าแค่โรงพยาบาลแห่งเดียวในเมืองนีซ ทางใต้ของฝรั่งเศส มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกือบ 450 คน จากทั้งหมด 7,500 คน ถูกพักงาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ยี่หระต่อผลกระทบดังกล่าว
"ไม่มีความปั่นป่วน เราห่างไกลจากจุดนั้น" โอลิวิเยร์ วาลาน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ RTL พร้อมระบุมีแรงงานในภาคอุตสาหกรรมนี้ถึง 27 ล้านคน
เขาบอกว่ามีไม่กี่กรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นความสับสนช่วงสั้นๆ ในการใช้งานเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI) แต่ด้วยพวกที่ถูกพักงานส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ในบทบาทสนับสนุน ผลกระทบจึงเกิดขึ้นแค่ในวงจำกัด
"ส่วนใหญ่แล้วถูกพักงานแค่ชั่วคราว จำนวนมากตัดสินใจเข้ารับวัคซีนแล้ว หลังพวกเขาเห็นว่าคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนนั้นเอาจริง" วารานกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางสหภาพส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความวุ่นวายในการดูแลคนไข้ โดยการขาดหายไปไม่กี่คนในสมาชิกทีมหนึ่งๆ ก็เพียงพอที่จะก่อวิกฤต จากความเห็นของเอ็มมานูเอล ชิกนอน ผู้จัดการบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในบอร์กโดซ์ บอกกับรอยเตอร์ พร้อมชี้ว่า บุคลากรประจำบ้านพักคนชรานั้นหาได้ยากมาก
"หากเราไม่สามารถหาผู้ดูแลคนใหม่มาแทนคนที่ออกไป งานจะตกไปอยู่กับคนอื่นๆ ที่เหลือ และผมเกรงว่ามันจะกลายเเป็นวงจรอุบาทว์ เกิดความเหนื่อยล้า อ่อนแรงและมีการลางานเพิ่มขึ้น" เขากล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)
