ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น นำร่องบริการโครงการโมบายเคลื่อนที่ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง วางเป้าหมายให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ส่วนกลุ่มอื่นรับวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 50
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ลงพื้นที่ศูนย์บริการขอนแก่นเนอร์สซิ่งโฮม เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถเดินทางไปรับบริการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งจะลดการเจ็บป่วยรุนแรงหากมีการติดเชื้อโควิค-19
ขณะเดียวกัน ยังให้บริการวัคซีนโควิด-19 กับบุคลากรของศูนย์บริการขอนแก่นเนอร์สซิ่งโฮม ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุภายในศูนย์บริการแห่งนี้ ตามนโยบายของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้จัดให้มีบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สนับสนุนการดำเนินการของเขตสุขภาพและจังหวัด โดยตั้งเป้าให้แต่ละศูนย์ฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่าวันละ 500 คน
นายแพทย์ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับพื้นที่รับผิดชอบอยู่ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ คือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ จากข้อมูลทราบว่าในพื้นที่รับผิดชอบมีผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง จึงริเริ่มโครงการนำร่องโครงการโมบายเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ให้สามารถเข้าถึงการบริการได้
โดยมีเป้าหมายในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการการฉีดวัคซีนที่ร้อยละ 70 ส่วนกลุ่มอื่นได้รับวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 50 จากข้อมูลพบว่าปัญหาคืออัตราการได้รับวัคซีนของกลุ่มของกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ยังไม่ถึงร้อยละ 50 ตามที่ตั้งเป้าไว้ สาเหตุมาจากหลายคนยังไม่มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน
ส่วนอีกประเด็น คือผู้สูงอายุบางรายมีภาวะอื่นๆ เช่นติดบ้าน ติดเตียง จากการสำรวจพบว่ามีประมาณร้อยละ 5 จึงทำให้ยังไม่เข้าถึงการบริการ ส่วนหนึ่งคือไม่สะดวกเรื่องการเดินทางไปรับวัคซีนที่จุดฉีด จึงทำโครงการนำร่องวัคซีนเคลื่อนที่ขึ้นที่ขอนแก่นเป็นจังหวัดแรก โดยประสานงานกับบ้านพักคนชราทั้งเอกชน รัฐบาล เนอร์สซิ่งโฮมกว่า 10 แห่งในจังหวัดขอนแก่น เพื่อจัดบุคลากรทางการแพทย์เดินทางให้บริการ และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ทางศูนย์อนามัยไม่ได้ฉีดให้เฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังฉีดให้กลุ่มผู้ดูแลด้วย เนื่องจากต้องดูแลใกล้ชิด ถือเป็นการทำงานเชิงรุก ที่หนุนเสริมการบริการร่วมกับโรงพยาบาลหลักอย่างโรงพยาบาลขอนแก่น และโรงพยาบาลศรีนครินทร์