เข้มสุดแห่งหนึ่งของโลก! อิตาลีบังคับ 'แรงงานทุกคน' ต้องแสดงบัตรฉีดวัคซีนโควิดหรือมีผลตรวจเป็นลบ

รัฐบาลอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) เห็นชอบมาตรการต้านโควิด-19 บางอย่างที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บังคับแรงงานทุกคนต้องแสดงข้อพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้ว มีผลตรวจเป็นลบหรือเพิ่งหายป่วยจากการติดเชื้อมาไม่นาน หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเงินและพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก

กฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ตุลาคม ในความพยายามล่าสุดของรัฐบาลผสมที่นำโดยนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในการโน้มน้าวประชาชนเข้าฉีดวัคซีนและควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หนักหน่วงที่สุดชาติหนึ่งของโลก

แรงงานรายใดที่ไม่แสดงบัตรรับรองสุขภาพจะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไล่ออก รัฐมนตรีหลายคนเปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าว หลังรัฐบาลเห็นชอบมาตรการดังกล่าว

นอกจากนี้แล้ว ประชาชนที่เพิกเฉยและไปทำงานโดยไม่ใส่ใจต่อคำสั่ง จะถูกปรับเงินราวๆ 600 ถึง 1,500 ยูโร (ราว 23,000 บาท ถึง 58,000 บาท) ส่วนนายจ้างจะถูกปรับเงิน 400-1,000 ยูโร (ราว 15,000 บาท ถึง 38,000 บาท)

"ไม่เคยมีมาก่อนในยุโรป เราวางตัวเองในแถวหน้าของนานาชาติ" เรนาโต บรูเนตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริหารรัฐกิจกล่าว พร้อมระบุรัฐบาลคาดหมายว่าจะคำสั่งนี้จะช่วยยกระดับการเข้าฉีดวัคซีนอย่างมหาศาล และน่าจะบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ ก่อนที่คำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในอีก 1 เดือนข้างหน้า

ในขณะที่ประเทศในสหภาพยุโรปบางแห่ง บังคับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขฉีดวัคซีน แต่ยังไม่มีชาติไหนที่บังคับใช้มาตรการที่เรียกว่า "กรีนพาส" กับแรงงานทุกคน นั่นทำให้อิตาลีจึงกลายเป็นเคสทดลองของทวีปไปโดยปริยาย

เบื้องต้น บัตรผ่านสุขภาพนี้มีเป้าหมายเพื่อผ่อนปรนด้านการเดินทางทั่วยุโรป แต่อิตาลีเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่เปลี่ยนแปลงแนวทางบังคับใช้ โดยกำหนดให้ต้องแสดงกรีนพาสครอบคลุมถึงบุคคลที่ต้องการเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ออกกำลังกาย และร้านอาหารในร่ม

มีการประท้วงประปรายทั่วประเทศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อต้านความพยายามกดดันให้ฉีดวัคซีน แต่บรรดาพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดเช่นเดียวกับสหพันธ์นายจ้างหลักๆ ต่างสนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยหวังว่ามันจะช่วยป้องกันไม่ให้ต้องล็อกดาวน์อีกครั้ง

ส่วนบรรดาแกนนำสหภาพแรงงานก็ขานรับมาตรการดังกล่าวเช่นกัน แต่แนะนำว่าควรให้บริการตรวจเชื้อแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายกับแรงงานที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เพื่อให้คนเหล่านี้สามารถทำงานได้ต่อไป

รัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้อง แต่บอกว่าราคาสำหรับชุดตรวจเชื้อจะถูกจำกัดไว้ที่ 15 ยูโร (ราว 581 บาท) สำหรับจุดประสงค์ด้านการงาน ต่ำว่าระดับราคาปัจจุบันค่อนข้างมาก

อิตาลีเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในยุโรปรองจากสหราชอาณาจักร ด้วยมีประชาชนเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปแล้วมากกว่า 130,000 คน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นในช่วงต้นปี 2020

จนถึงตอนนี้จากประชากรทั้งหมดราวๆ 60 ล้านคนของอิตาลี มีผู้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มแล้วราวๆ 74% และฉีดครบแล้ว 68% พอๆ กับประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ในอียู

เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน Gimbe มูลนิธิด้านสุขภาพของอิตาลี ระบุในรายงานวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) ว่า เคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ณ ปัจจุบัน เกือบทั้งหมดเป็นคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

รายงานระบุว่า วัคซีนช่วยลดการเสียชีวิตในอิตาลีถึง 96.3% ลดอาการป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 93.4% และลดป่วยหนักถึงขั้นเข้าห้องไอซียู 95.7%

ในเดือนมีนาคม อิตาลีออกคำสั่งบังคับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ต้องถูกพักงาน และจนถึงตอนนี้ มีแพทย์ถูกพักงานไปแล้ว 728 คน อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลคนไข้มากน้อยแค่ไหนที่ปฏิเสธปฏิบัติตาม

มาตรการเดียวกันนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ในฝรั่งเศสเมื่อวันพุธ (15 ก.ย.) และโอลิวิเยร์ วาราน รัฐมนตรีสาธารณสุขเผยว่ามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขราว 3,000 คน ถูกพักงานฐานยังไม่ฉีดวัคซีน

(ที่มา : รอยเตอร์)