ท้ายที่สุดแล้ว อิตาลีอาจต้องบังคับประชนชนทุกคนที่เข้าเกณฑ์อายุ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และมีแผนเริ่มฉีดเข็มกระตุ้นแก่กลุ่มคนอ่อนแอในเดือนนี้ จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ ในวันพฤหัสบดี (2 ก.ย.)
ที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีได้บังคับบุคลากรด้านสาธารณสุขฉีดวัคซีนไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นจะถูกระงับเงินเดือน แต่ ดรากิ บอกว่าทุกคนอาจถูกบังคับฉีดวัคซีนเช่นกัน ครั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอียูอนุมัติวัคซีนอย่างเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ได้อนุมัติแบบมีเงื่อนไขวัคซีน 4 ตัว แต่อาจปรับระดับสู่ขั้นที่เรียกว่าขึ้นทะเบียนตำรับยาวัคซีนโควิดตามมาตรฐาน หลังดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งหากมาถึงจุดนี้ ดรากิเผยว่าอิตาลีอาจบังคับประชาชนทุกคนฉีดวัคซีนโควิด-19
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจก่อเสียงต้านอย่างดุเดือดในอิตาลี ประเทศที่ผู้คนจำนวนมากมีความคลางแคลงใจต่อวัคซีนทุกชนิดมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ซึ่งสนับสนุนการฉีดวัคซีน ต้องเผชิญกับการด่าทอและข่มขู่คุกคามจากพวกไม่เอาวัคซีน
ดรากิ กล่าวระหว่างแถลงข่าวประณามการใช้ความรุนแรงต่างๆ ดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและขี้ขลาดตาขาว โดยฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นการด่าทอและข่มขู่คุกคามบุคลากรแถวหน้าที่กำลังต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่
นายกรัฐมนตรีอิตาลีบอกกับผู้สื่อข่าว แสดงความมั่นใจจำนวนชาวอิตาลีอายุ 12 ปีขึ้นไปที่รับวัคซีนครบถ้วนจะพุ่งแตะระดับ 80% ในช่วงสิ้นเดือน จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 70.5%
เขาบอกด้วยว่า รัฐบาลอิตาลีมีแผนขยายขอบเขตบังคับใช้เอกสารสุขภาพที่เรียกว่า "กรีนพาส" เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่จำเป็นต้องแสดงครั้งที่เดินทางไกล เข้าถึงกิจกรรมสันทนาการ และยังบังคับใช้กับครู อาจารย์และเจ้าหน้าที่ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ
เจ้าหน้าที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า พวกเขากำลังพิจารณาขยายมาตรการนี้ครอบคลุมทุกคนที่ทำงานในหน่วยงานราชการหรือซูเปอร์มาร์เกตด้วย แม้ว่าระบบนี้โหมกระพือการประท้วงของชาวอิตาลีบางส่วน ที่บอกว่ามันเป็นการเหยียบย่ำสิทธิเสรีภาพ
มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วราว 129,352 รายในอิตาลี นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว สูงสุดอันดับ 2 ของยุโรป เป็นรองเพียงสหราชอาณาจักร
แม้เคสผู้ติดเชื้อใหม่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนสิงหาคม แต่คณะแพทย์เกรงว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก อาจก่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
(ที่มา : รอยเตอร์)