ตำรวจฮ่องกงบุกจับผู้นำนักศึกษา 4 คนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ฐานมีพฤติกรรมที่เข้าข่าย “สนับสนุนการก่อการร้าย” (advocating terrorism)
หลี่ ไคว-วา (Li Kwai-wah) เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากตำรวจหน่วยพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง ระบุว่า คำแถลงของกลุ่มนักศึกษาที่มีขึ้นหลังเกิดเหตุชายวัย 50 ปีใช้มีดแทงตำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นสาเหตุที่นำมาสู่การออกหมายจับแกนนำนักศึกษาทั้ง 4 คนในวันนี้ (18 ส.ค.)
“ชาย 4 คนที่อายุระหว่าง 18-20 ปีถูกจับกุมในวันนี้ โดยทั้งหมดเป็นสมาชิกของสหภาพนักศึกษา และสภาสหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกง” หลี่ ระบุ
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เหลียง จินไฝ่ วัย 50 ปี ได้ก่อเหตุใช้มีดแทงตำรวจบาดเจ็บที่ย่านการค้าในคอสเวย์เบย์ ก่อนจะใช้มีดเล่มเดียวกันแทงตัวเองจนเสียชีวิต ซึ่งทางการฮ่องกงระบุว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ก่อการร้ายภายในประเทศ”
หลังจากนั้นไม่นาน สหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ก็ได้ออกคำแถลงแสดงความ “เสียใจอย่างสุดซึ้ง” ต่อการจากไปของมือมีดรายนี้ และยังยกย่อง “การเสียสละ” ของเขาด้วย
ปรากฏว่าคำแถลงดังกล่าวเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนกระทั่งทางสหภาพนักศึกษาเองต้องออกมาขอโทษและแก้ไขถ้อยคำเสียใหม่
“คำแถลงดังกล่าวถือเป็นการยกย่องเชิดชูพฤติกรรมก่อการร้าย และการโจมตีแบบไม่เลือกหน้า และยังสนับสนุนให้คนฆ่าตัวตายด้วย” หลี่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวันนี้ (18)
เดือนที่แล้ว ตำรวจฮ่องกงได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานของสหภาพนักศึกษา HKU รวมถึงสถานีโทรทัศน์ของมหาวิทยาลัย และสำนักงานกิจการนักศึกษาระดับปริญญาตรี ขณะที่ผู้บริหารของ HKU ก็ประกาศคำสั่งแบนสมาชิกสภาสหภาพนักศึกษาด้วย
ทั้งนี้ ความผิดฐานสนับสนุนการก่อการร้ายมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และถือเป็นความผิดตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนนำมาบังคับใช้กับฮ่องกงตั้งแต่ปีที่แล้ว
จนถึงขณะนี้มีชาวฮ่องกงถูกจับและดำเนินคดีฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติแล้วไม่ต่ำกว่า 130 คน ส่วนใหญ่โดนข้อหาแบ่งแยกดินแดนและบ่อนทำลายรัฐจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือเรียกร้องประชาธิปไตย ทว่าไม่ค่อยมีใครที่โดนข้อหาก่อการร้าย
ที่มา : รอยเตอร์