ทีมกู้ภัยในเฮติในวันจันทร์ (16 ส.ค.) ใช้เครื่องมือหนักและมือเปล่าค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารต่างๆ ที่พังถล่มลงมา 2 วันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คร่าชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1,400 ศพ ขณะเดียวกันชาวบ้านส่อแววเจอภัยพิบัติซ้ำเติม ด้วยพายุลูกหนึ่งกำลังคืบคลานเข้าไปใกล้ทุกขณะ
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มตามแนวชายฝั่งแหลมทางตะวันตกเฉียงใต้ของเฮติ ซึ่งเพิ่งเผชิญภัยพิบัติร้ายแรงแผ่นดินไหวระดับ 7.2 เขย่าอาคารบ้านเรือนหลายพันหลังพังถล่มเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (14 ส.ค.) และด้วยเวลานี้โรงพยาบาลต่างๆ แน่นขนัดไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับพายุโซนร้อนเกรซได้อย่างไร
หน่วยงานป้องกันพลเรือนของเฮติปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจนถึงวันจันทร์ (16 ส.ค.) เป็น 1,419 คน และได้รับบาดเจ็บ 6,900 ราย ในเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สั่นสะเทือนห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ไปทางตะวันตกราวๆ 160 กิโลเมตร และแผ่นดินไหวคราวนี้ยังทำลายอาคารบ้านเรือนไปมากกว่า 37,000 หลัง
จากข้อมูลของศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า ในเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งต่างตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลา คาดหมายว่าพายุเกรซจะก่อให้เกิดฝนตกราวๆ 5 ถึง 10 นิ้ว และสููงสุดไม่เกิน 15 นิ้ว ทั่วพื้นที่ต่างๆ ทางใต้ไปจนถึงวันอังคาร (17 ส.ค.) "ฝนตกหนักอาจนำมาซึ่งนำท่วมฉับพลันในตัวเมือง และเป็นไปได้ที่จะเกิดดินถล่ม"
พวกชาวบ้านต้องเผชิญกับภาวะหนีเสือปะจระเข้ ว่าจะเลือกปักหลักอยู่นอกบ้านท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่ยังสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง หรือกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยซึ่งอยู่ในสภาพเปราะบาง เพื่อหลบหนีภัยฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุเกรซ ที่เริ่มเล่นงานเฮติแล้วในช่วงบ่ายวันจันทร์ (16 ส.ค.)
โรงพยาบาลในเมืองพอร์ต ซาลูท ตัดสินใจนำตัวคนไข้ที่รักษาตัวอยู่ในลานกลางแจ้งหลังเกิดแผ่นดินไหวกลับเข้าสู่อาคารอีกครั้ง เพื่อป้องกันผู้ป่วยเหล่านั้นจากพายุ แม้ยังคงมีความเสี่ยงต่างๆ
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เฮติ งยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2010 ที่ทำลายล้างกรุงปอร์โตแปรงซ์ คร่าชีวิตชาวบ้านหลายแสนคน และยังไม่หายช็อกจากเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว
ความช่วยเหลือบางส่วนจากต่างแดนเดินทางมาถึงแล้ว ในนั้นรวมถึงทีมค้นหาเชี่ยวชาญพิเศษจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับอาหาร ยา และน้ำ กว่า 15.4 ตันจากเม็กซิโก
แผ่นดินไหวระดับ 7.0 ในเดือนมกราคม 2010 ทำพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงฟอร์โตแปรงซ์และเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงพังพินาศ และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน
ประชาชนชาวเฮติมากกว่า 1.5 ล้านคนต้องกลายเป็นคนไร้ที่พักอาศัยในภัยพิบัติครั้งนั้น ซึ่งทำลายระบบสาธารณสุขของเฮติไปราวๆ 60% ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาคมมนุษยธรรมระหว่างประเทศเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวง
ส่วนแผ่นดินไหวรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่ เฮติ อยู่ในภาวะบอบช้ำอยู่ก่อนแล้ว จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจที่ถูกซ้ำเติมจากความรุนแรงระหว่างแก๊ง และจากวิกฤตทางการเมือง หลังเกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโจเวเนล มอยส์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถสัมผัสได้ไกลถึงจาไมกา และคิวบา อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ ในทั้ง 2 ประเทศ
(ที่มา : เอเอฟพี)
