ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนเฮติ เพิ่มขึ้นเป็น 1,297 ราย คนในวันอาทิตย์ (15 ส.ค.) ทีมช่วยเหลือกำลังดิ้นรนค้นหาผู้รอดชีวิตที่ถูกฝังใต้ซากปรักหักพัง ส่วนโรงพยาบาลต่างๆ ต้องรับมือกับผู้ได้รับบาดเจ็บหลายพันคน ทว่า อีกด้านหนึ่งดูเหมือนภัยพิบัติทางธรรมชาติยังไม่ยอมรามือ พายุลูกใหญ่ลูกหนึ่งกำลังถาโถมมุ่งหน้าสู่ประเทศในแถบแคริบเบียนแห่งนี้
แผ่นดินไหวระดับ 7.2 เมื่อวันเสาร์ (14 ส.ค.) ทำบ้านเรือนและอาคารต่างๆ หลายร้อยหลังพังพินาศ บรรดาโบสถ์ โรงแรม โรงพยาบาลและโรงเรียนได้รับความเสียหายหนักหรือไม่ก็พังยับ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เพิ่งจะฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อ 11 ปีก่อนและยังคงโซซัดโซเซจากเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีในเดือนที่แล้ว
ดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเฮติได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในและรอบๆ เมืองเลส์ กาเยส จากการเปิดเผยเจอร์รี ชันด์เลอร์ หัวหน้าหน่วยงานพิทักษ์พลเรือนของเฮติ พร้อมระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้เพิ่มเป็น 724 รายและบาดเจ็บ 2,800 คน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาทางหน่วยงานพิทักษ์พลเรือนของเฮติอัปเดตข้อมูลล่าสุด ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,297 ราย เพิ่มขึ้นจากที่รายงานก่อนหน้านี้เกือบเท่าตัว "จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,297 คนในวันที่ 15 สิงหาคม" หน่วยงานระบุในรายงาน พร้อมปรับเพิ่มจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากอย่างน้อย 2,800 คน เป็นมากกว่า 5,700 คน
แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ เฮติ อยู่ในภาวะบอบช้ำอยู่ก่อนแล้ว จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจที่ถูกซ้ำเติมจากความรุนแรงระหว่างแก๊ง และจากวิกฤตทางการเมือง หลังเกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี โจเวเนล มอยส์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม
อาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฮติ ซึ่งบินลงพื้นที่ประสบภัยในเมืองเลส์ กาเยส ระบุว่า "เราต้องร่วมมือกันเพื่อตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดขั้วนี้"
รัฐบาลยังร้องขอองค์กรช่วยเหลือต่างๆ ให้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว และเรียกร้องให้องค์กรเหล่านั้นทำงานภายใต้แผนของรัฐบาล ในความพยายามหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่างๆ ซ้ำรอยครั้งเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวรุนแรงปี 2021 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายพันราย
ที่สนามบินในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์นานาชาติ แพทย์ และทีมช่วยเหลือกำลังรอขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังเลส์ กาเยส
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความพยายามกู้ภัยใดๆ คงต้องเจอกับภาวะยุ่งยากซับซ้อน สืบเนื่องจากการคืบคลานเข้ามาของพายุโซนร้อนเกรซ ซึ่งคาดหมายว่าจะเล่นงานเฮติด้วยฝนตกหนักในวันจันทร์ (16 ส.ค.) และทางศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอชซี) เตือนว่าบางพื้นที่ของเฮติเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ซาแมนธา พาวเวอร์ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) เปิดเผยว่าอเมริกาได้จัดส่งเสบียงต่างๆที่สำคัญ และส่งคณะทำงานค้นหาและช่วยเหลือ 65 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษมุ่งหน้าสู่พื้นที่ประสบภัย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผยว่า ยูเสดจะช่วยประเมินและฟื้นฟูความเสียหาย และสำทับว่า อเมริกาเป็นมิตรใกล้ชิดยาวนานของชาวเฮติ ขณะที่อาร์เจนตินาและชิลีเป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ให้คำมั่นช่วยเหลือเฮติเช่นเดียวกัน
ชาวเฮติบางส่วนตัดสินใจค้างคืนในคืนวันเสาร์ (14 ส.ค.) ในที่โล่งแจ้ง สืบเนื่องจากยังคงมีความทรงจำอันเจ็บปวดจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7 ในปี 2010 ซึ่งสั่นสะเทือนใกล้กรุงปอร์โตแปรงซ์
เมื่อคืนวันเสาร์ เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายสิบครั้ง ซึ่ง โคลด เปรเปอตีต์ วิศวกรพลเรือนและนักธรณีวิทยาเฮติ เตือนอันตรายจากสิ่งปลูกสร้างที่ร้าวและเสียหายหนักอาจถล่มลงมาได้ระหว่างอาฟเตอร์ช็อก
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถสัมผัสได้ไกลถึงจาไมกา และคิวบา อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ ในทั้ง 2 ประเทศ
(ที่มา : รอยเตอร์)
