xs
xsm
sm
md
lg

แผ่นดินไหวเขย่าเฮติสังเวยอย่างน้อย 304 หวั่นพายุโซนร้อนถล่มซ้ำช่วงต้นสัปดาห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - เฮติสังเวยอย่างน้อย 304 ชีวิต หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 เมื่อวันเสาร์ (14 ส.ค.) นอกจากนั้น ยังมีผู้บาดเจ็บอย่างต่ำอีก 1,800 คน บ้านเรือนหลายร้อยหลังและสิ่งปลูกสร้างมากมายพังทลาย สถานการณ์ความเสียหายอาจยิ่งเลวร้ายเนื่องจากคาดหมายว่า พายุโซนร้อนเกรซจะพัดขึ้นฝั่งเฮติช่วงต้นสัปดาห์นี้

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของเฮติ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ทำให้บางเมืองเกือบราบเป็นหน้ากลอง ทั้งยังทำให้เกิดดินถล่มขัดขวางความพยายามในการกู้ภัยชุมชน 2 แห่งที่เสียหายมากที่สุด

ภัยพิบัติครั้งนี้ยิ่งซ้ำเติมชะตากรรมของชาวเฮติที่ยังคงเผชิญวิกฤตโควิด-19 และเพิ่งได้รับการบริจาควัคซีนล็อตแรกจากอเมริกาผ่านทางโครงการโคแวกซ์ของสหประชาชาติเมื่อเดือนที่แล้ว อีกทั้งเพิ่งสูญเสียประธานาธิบดีโจเวเนล มัวอิส จากการถูกลอบสังหาร

กรมสำรวจธรณีวิทยาของอเมริการะบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ราว 125 กิโลเมตร

สถานการณ์ความเสียหายอาจยิ่งเลวร้ายในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากคาดหมายว่า พายุโซนร้อนเกรซจะพัดขึ้นฝั่งเฮติในช่วงคืนวันจันทร์หรือเช้าวันอังคาร (16-17 ส.ค.)

นอกจากนั้น ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอกตลอดวันเสาร์จนถึงช่วงกลางคืน ขณะที่ผู้คนมากมายที่กลายเป็นคนไร้บ้านหรือหวาดกลัวว่า บ้านที่เสียหายอาจถล่มลงมา พากันไปนอนพักผ่อนเรียงรายบนถนน

เจอร์รี แชนด์เลอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันพลเรือนเฮติ เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจนถึงคืนวันเสาร์อยู่ที่ 304 คน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงประชาชนช่วยกันนำผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังออกมาได้จำนวนมาก

เขาเสริมว่า ความเสียหายเชิงโครงสร้างที่ได้รับรู้แล้วบางส่วนประกอบด้วยบ้านเรือนอย่างน้อย 860 หลังพังถล่ม และโรงแรม โรงเรียน สำนักงาน และโบสถ์ 700 แห่งเสียหาย

นายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรี สั่งการให้เร่งส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัย ขณะที่โรงพยาบาลที่ขาดแคลนทรัพยากรอยู่แล้วเนืองแน่นด้วยผู้บาดเจ็บ และอดีตวุฒิสมาชิกผู้หนึ่งเช่าเครื่องบินส่วนตัวนำผู้บาดเจ็บจากเมืองเลส์กาเยส์ไปรับการรักษาในเมืองหลวง

อองรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ 1 เดือน และเสริมว่า จะยังไม่ขอความช่วยเหลือนานาชาติจนกว่าจะรับรู้ระดับความเสียหายก่อน พร้อมย้ำว่า ภารกิจสำคัญที่สุดในขณะนี้คือเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังให้ได้มากที่สุด

นอกจากนั้น ระหว่างขึ้นเครื่องบินเพื่อไปยังเมืองเลส์ กาเยส์ อองรียังเรียกร้องความร่วมมือร่วมใจอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่า มีการประสานงานอย่างดีในการรับมือภัยพิบัติครั้งนี้และหลีกเลี่ยงความสับสนที่เคยเกิดขึ้นในเหตุการณ์แผ่นดินไหวปี 2010 ที่ความช่วยเหลือไปถึงมือผู้ประสบภัยล่าช้า ขณะที่มีชาวเฮติเสียชีวิตถึง 300,000 คน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติการรับมือภัยพิบัติทันที และแต่งตั้งซาแมนธา พาวเวอร์ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) รับหน้าที่เจ้าหน้าที่อาวุโสประสานงานความพยายามของอเมริกาในการช่วยเหลือเฮติ

ไบเดนเผยว่า ยูเสดจะช่วยประเมินและฟื้นฟูความเสียหาย และสำทับว่า อเมริกาเป็นมิตรใกล้ชิดยาวนานของชาวเฮติ

อาร์เจนตินาและชิลีเป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ให้คำมั่นช่วยเหลือเฮติเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมเผยว่า การก่อกวนของแก๊งอาชญากรในเขตมาร์ติซองต์ที่อยู่ริมทะเลทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขัดขวางความพยายามในการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์

เดียกา เซค โฆษกองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ในปอร์โตแปรงซ์ เผยว่า บริการอินเทอร์เน็ตที่ใช้ได้เป็นพักๆ ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและความเสียหายมาถึงเมืองหลวงของเฮติล่าช้า กระนั้น ยูนิเซฟมีแผนจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาล 2 แห่งในเมืองเลส กาเยส์ และเจเรมีที่อยู่ทางใต้ของประเทศ

ทั้งนี้ เฮติเป็นประเทศที่เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวและเผชิญพายุเฮอร์ริเคน โดยในปี 2018 เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 มีผู้เสียชีวิตกว่าสิบคน

เมื่อคืนวันเสาร์ เกิดอาฟเตอร์ช็อกความแรงกว่า 5.0 หกครั้ง และแรงกว่า 4.0 อีก 9 ครั้ง โคลด เปรเปอตีต์ วิศวกรพลเรือนและนักธรณีวิทยาเฮติ เตือนอันตรายจากสิ่งปลูกสร้างที่ร้าวและเสียหายหนักอาจถล่มลงมาได้ระหว่างอาฟเตอร์ช็อก
กำลังโหลดความคิดเห็น