ทางการต้องระดมทหาร 300 นายเข้าประจำการเพื่อช่วยบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในซิดนีย์ นครใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ขณะที่เมืองใหญ่อีกแห่งอย่างบริสเบน ต้องต่ออายุคำสั่งกักตัวอยู่บ้าน เนื่องจากทั้ง 2 เมืองใหญ่ของออสเตรเลียยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ ด้านจีนล็อกดาวน์ประชาชนหลายล้านคน รวมทั้งเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อ หลัง “เดลตา” ระบาดลามจากคลัสเตอร์ในเมืองหนานจิงไปยังกว่า 20 เมือง และกว่า 10 มณฑล ตรงข้ามกับอเมริกาที่แม้จำนวนเคสใหม่พุ่งแรงอีกรอบ แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเชื่อว่า จำนวนผู้ฉีดวัคซีนแล้วมีมากพอจนไม่ต้องฟื้นมาตรการล็อกดาวน์
ในวันจันทร์ (2 ส.ค.) ทหารจากกองกำลังพิทักษ์ออสเตรเลียราว 300 นาย ถูกส่งไปยังซิดนีย์ ตามคำขอของตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อช่วยให้แน่ใจว่า ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการสกัดโควิด หลังจากมีผู้ละเมิด และทางการยังไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดของสายพันธุ์เดลตาได้ โดยขณะนี้ซิดนีย์มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 3,600 คนนับจากกลางเดือนมิถุนายน
รัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองเอกรายงานในวันจันทร์เช่นกันว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 207 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และจำนวนเคสใหม่รายวันยังคงปักหลักใกล้ๆ สถิติสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะนี้ประชาชนกว่า 5 ล้านคนในและรอบๆ ซิดนีย์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 ของการล็อกดาวน์ที่จะมีผลจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม โดยได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อออกกำลังกาย ทำงานที่จำเป็น ไปพบแพทย์หรือเพื่อความจำเป็นทางการแพทย์ ตลอดจนซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนยังคงละเมิดกฎเหล่านี้กันอยู่
ทหารที่ถูกส่งมาใหม่ซึ่งจะไม่ติดอาวุธและอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของตำรวจนิวเซาท์เวลส์ จะเริ่มตรวจเยี่ยมประชาชนถึงบ้านเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ติดเชื้อปฏิบัติตามคำสั่งกักตัวอยู่บ้าน รวมทั้งร่วมลาดตระเวนกับตำรวจในซิดนีย์ซึ่งเป็นพื้นที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดของแดนจิงโจ้ในขณะนี้
ทางด้านประชาชนหลายล้านคนในบริสเบน เมืองใหญ่อันดับ 3 ของออสเตรเลีย และพื้นที่โดยรอบก็เช่นเดียวกัน ยังจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์จนถึงวันศุกร์ (6) จากเดิมที่กำหนดยกเลิกในวันอังคาร (3) เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 29 คน
ไม่เฉพาะที่ออสเตรเลีย หลายชาติในยุโรปก็มีกระแสผู้คนเบื่อหน่ายไม่พอใจมาตรการจำกัดเข้มงวดต่างๆ เพื่อสกัดกั้นโรคระบาด และพากันออกมาประท้วงต่อต้านเพรียกหาเสรีภาพ
ที่เยอรมนีเมื่อวันอาทิตย์ (1) ผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการเข้มงวดหลายพันคนได้ออกไปชุมนุมกันซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งศาล รวมทั้งปิดถนนหลายสายในกรุงเบอร์ลิน ส่งผลให้เกิดการปะทะกับตำรวจที่มีการระดมกำลังเตรียมพร้อมรับมือถึงกว่า 2,000 นาย
ตำรวจเผยว่า มีผู้ประท้วงออกไปรวมตัวกันราว 5,000 คน และถูกควบคุมตัวกว่า 600 คน
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งห้ามการประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงในวันอาทิตย์ที่คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมถึงกว่า 20,000 คน เนื่องจากกลัวว่า ผู้ประท้วงจะละเมิดกฎการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในเยอรมนีพุ่งขึ้นอีกรอบ
สำหรับที่จีน ในวันจันทร์มีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ในท้องถิ่น 55 คนในวันจันทร์ โดยเป็นผลจากการที่ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาระบาดอย่างรวดเร็วไปยังกว่า 20 เมืองและกว่าสิบมณฑล
รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองหลวงปักกิ่ง เร่งดำเนินการตรวจเชื้อโควิดให้ประชาชนหลายล้านคน ควบคู่กับการปิดอาคารที่พักอาศัยบางแห่ง และติดตามเพื่อกักตัวผู้สัมผัสโรค
ที่เมืองจูโจว มณฑลหูหนาน มีคำสั่งให้ประชาชนกว่า 1.2 ล้านคนกักตัวอยู่บ้านตั้งแต่วันจันทร์รวม 3 วัน และเร่งปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อและฉีดวัคซีนให้ประชาชน ขณะที่ปักกิ่งงดรับนักท่องเที่ยวระหว่างช่วงพีกของเทศกาลวันหยุดฤดูร้อนในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ จีนโอ่อวดความสำเร็จในการควบคุมการระบาด หลังไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2019 และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่การระบาดระลอกล่าสุดที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ในเมืองหนานจิง ซึ่งพบพนักงานทำความสะอาดในสนามบินนานาชาติ 9 คนติดโควิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม กำลังคุกคามความสำเร็จดังกล่าว ด้วยยอดผู้ติดเชื้อภายในท้องถิ่นจำนวนกว่า 360 คนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ยังพบเคสใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) และในมณฑลเหอหนานที่ประสบภัยน้ำท่วม
ส่วนที่อเมริกา แม้เดลตาระบาดหนักจนทำให้จำนวนเคสใหม่เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ นพ.แอนโทนี ฟาวซี นักวิจัยชั้นนำในเรื่องโรคติดเชื้อ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาใหญ่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่า อเมริกาจะไม่ต้องล็อกดาวน์อีก เนื่องจากมีจำนวนผู้ฉีดวัคซีนมากพอที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์การระบาดรุนแรงที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะยานเหมือนในฤดูหนาวที่แล้ว
ฟาวซี ย้ำว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเสี่ยงติดเชื้อต่ำมาก และยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตถ้าติดโควิด แต่การระบาดขณะนี้เกิดขึ้นในหมู่ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
สัปดาห์ที่แล้ว ไบเดนเผยว่า อเมริกาอาจต้องออกมาตรการจำกัดใหม่เพื่อสกัดการระบาดของเดลตา หลังจากที่ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) กลับลำและแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีการระบาดสูงต้องสวมหน้ากากป้องกันขณะอยู่ภายในอาคาร รวมทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสด้วย
ซีดีซีสำทับว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดง่ายพอๆ กับโรคอีสุกอีใส และแม้พบได้น้อยมาก แต่ข้อมูลการวิจัยล่าสุดพบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถแพร่เชื้อได้เท่ากับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน