ตำรวจซิดนีย์ร้องขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพให้ช่วยส่งทหารลงพื้นที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิ-19 รายวันในมหานครอันดับ 1 ของแดนจิงโจ้พุ่งสูงเป็นสถิติใหม่ในวันนี้ (29 ก.ค.)
มิก ฟูลเลอร์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันออสเตรเลีย 300 นาย เข้าประจำการ “เพื่อเสริมกำลังการปฏิบัติหน้าที่"
ซิดนีย์ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคนย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ของการล็อกดาวน์ ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. ทว่าคำสั่งให้ชาวเมืองเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านยังไม่อาจลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ให้เหลือเป็น “ศูนย์” ได้ อีกทั้งยังมีประชาชนที่ฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐ
เวลานี้ชาวซิดนีย์ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านด้วยเหตุผลเพียงไม่กี่ข้อ ได้แก่ การออกกำลังกาย ทำธุระสำคัญ ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ รวมถึงซื้อข้าวของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น อาหาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีชาวซิดนีย์ไปนั่งจับกลุ่มดื่มกาแฟ หรือคุยกับเพื่อนๆ ตามสวนสาธารณะและทางเดินริมชายหาด
ตำรวจซิดนีย์ได้เพิ่มวงเงินค่าปรับสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อจำกัด และฟูลเลอร์ ยืนยันว่าจะมีการปรับบทลงโทษให้เข้มงวดรุนแรงขึ้นอีกภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงหลายพันคนได้ไปรวมตัวกันที่ใจกลางนครซิดนีย์เพื่อต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ และยังคงมีการนัดหมายชุมนุมเพิ่มเติม
ตำรวจยังได้ร้องขออำนาจเพิ่มเติมสำหรับสั่งปิดธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
เกลดีส์ เบเรจิเคลียน นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ออกมาเตือนแล้วว่า การระบาดระลอกล่าสุดซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อกลางเดือน มิ.ย. หลังจากที่มีคนขับรถของลูกเรือเที่ยวบินระหว่างประเทศรายหนึ่งติดเชื้อ "มีแนวโน้มที่จะย่ำแย่ลงอีก"
ทางการซิดนีย์ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 239 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสถิติรายวันสูงสุดสำหรับการแพร่ระบาดระลอกนี้ ส่วนจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมดอยู่ที่ 2,810 ราย
เนื่องจากประชากรออสเตรเลียยังฉีดวัคซีนกันไม่ถึง 14% ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงเตือนว่ามาตรการปิดเมืองของซิดนีย์อาจต้องยืดเยื้อไปอีกนานหลายเดือนทีเดียว
ออสเตรเลียได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเข้ามาเป็นจำนวนน้อยมาก ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่กังวลผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จนทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า
ที่มา : เอเอฟพี