จีนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 55 รายในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (31 ก.ค.) ขณะที่ทางการเผยเชื้อ “เดลตา” ที่ระบาดในเมืองหนานจิง (นานกิง) เริ่มแพร่ลามไปสู่อีก 5 มณฑล รวมถึงที่กรุงปักกิ่ง
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงว่า เคสโควิดใหม่ 30 รายเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ส่วนอีก 25 รายเป็นเคสนำเข้าจากต่างประเทศ และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
เคสผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ถูกพบที่มณฑลเจียงซู ซึ่งเกิดการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาในเมืองหนานจิงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยทางการจีนได้ติดตามสอบสวนโรคจนพบว่า ต้นตอมาจากพนักงานที่ขึ้นไปทำความสะอาดห้องโดยสารบนเที่ยวบินจากรัสเซีย
จากคลัสเตอร์ที่หนานจิง เวลานี้เชื้อเดลตาได้แพร่กระจายออกไปสู่เมืองอื่นๆ ในมณฑลเจียงซู, กรุงปักกิ่ง รวมถึงอีก 5 มณฑล ได้แก่ อานฮุย, เสฉวน, เหลียวหนิง, กว่างตง และหูหนาน
ล่าสุด วันนี้ (31) นครซูโจวซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในมณฑลเจียงซูได้ประกาศปิดห้องเล่นหมากรุกและไพ่นกกระจอก ซึ่งเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ชาวจีนนิยมกันมาก หลังพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งติดเชื้อจากการเข้าไปใช้สถานที่เหล่านี้
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ Beijing Youth Daily รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25) ว่าสถานศึกษาบางแห่งในกรุงปักกิ่งขอให้นักเรียนซึ่งอยู่ระหว่างหยุดภาคฤดูร้อนเดินทางกลับเมืองหลวงอย่างน้อย 14 วันก่อนจะเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 15 ส.ค.
เมืองเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนานซึ่งเผชิญเหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงในเดือนนี้ ก็ประกาศให้ผู้ที่จะเดินทางออกจากเมืองต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็น “ลบ” และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ 1 คน ซึ่งถือเป็นเคสแรกของเมืองในรอบหลายเดือน
จากข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. จีนแผ่นดินใหญ่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมทั้งสิ้น 92,930 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 4,636 คนเท่าเดิม
ที่มา : รอยเตอร์
