xs
xsm
sm
md
lg

น้องสาว ‘คิม’ เตือนโสมขาว-มะกันซ้อมรบ เสี่ยงกระทบแผนฟื้นสัมพันธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุยังไม่ได้ตัดสินใจในประเด็นเรื่องการซ้อมรบกับสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะสร้างความตึงเครียด หลังจากที่เกาหลีเหนือออกมาขู่กลายๆ ให้โซลยกเลิกแผนดังกล่าวในช่วงที่ทั้ง 2 ชาติกำลังหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์

เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาเปิดซ้อมรบร่วมอยู่เป็นประจำในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของทุกปี และถูกเกาหลีเหนือโจมตีอยู่เสมอว่าเป็นการ “ซ้อมรุกราน”

ล่าสุด คิม โยจอง น้องสาวแท้ๆ ของผู้นำ คิม จองอึน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคแรงงานเกาหลี ได้แถลงเตือนเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ว่าการจัดซ้อมรบกับสหรัฐฯ อาจกระทบแผนการคืนดีระหว่างสองเกาหลี

“ดิฉันมองว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่พึงประสงค์ และอาจเป็นตัวบั่นทอนอย่างร้ายแรงต่อเจตนารมณ์ของผู้นำสูงสุดทั้งสองท่าน” คิม โยจอง กล่าว พร้อมเตือนว่าการซ้อมรบ “จะยิ่งทำให้หนทางในการฟื้นฟูความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-ใต้มืดมนมากขึ้น”

คำเตือนจาก “เจ้าหญิงแห่งเปียงยาง” มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เกาหลีเหนือและใต้กลับมาเชื่อมโทรศัพท์สายด่วนที่ถูกเปียงยางตัดทิ้งไปเมื่อปีก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงความพยายามของประธานาธิบดี มุน แจอิน และผู้นำ คิม ที่จะลดความตึงเครียดและเปิดโอกาสในการจัดซัมมิตรอบใหม่

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยอมรับวันนี้ (2) ว่าโซลและวอชิงตันมีการพูดคุยเรื่องจัดซ้อมรบจริง ทว่ายังไม่มีการตัดสินใจ

“เรายังไม่มีความเห็นต่อคำแถลงของเธอ และในส่วนของการซ้อมรบก็ยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลาหรือรูปแบบ” บู ซึงชาน โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงต่อสื่อมวลชน

บู ระบุว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะตัดสินใจหลังจากที่ได้พิจารณาประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานการณ์ของโรคโควิด-19 จุดยืนด้านการป้องกันร่วม แผนถ่ายโอนการควบคุมปฏิบัติการในภาวะสงคราม รวมถึง “การสนับสนุนความพยายามทางการทูตเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนถาวรบนคาบสมุทรเกาหลี”

ด้าน ลี จองจู โฆษกหญิงของกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ซึ่งดูแลกิจการข้ามแดน ชี้ว่าการซ้อมรบกับสหรัฐฯ “ไม่ควรเป็นสาเหตุของความตึงเครียดทางทหารในทุกกรณี”

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ลดขนาดการซ้อมรบลงมาเพื่อให้เอื้อต่อการเจรจากับเกาหลีเหนือ ประกอบกับอเมริกาในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หวังที่จะโน้มน้าวให้เปียงยางล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร

อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวจากการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ระหว่าง ทรัมป์ และ คิม เมื่อปี 2019 ส่งผลให้การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ไร้ความคืบหน้ามาจนทุกวันนี้

การระบาดของโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการซ้อมรบร่วม โดยคาดว่าโซลและวอชิงตันคงจะเน้นจำลองสถานการณ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ลดการฝึกยุทธวิธีภาคสนาม รวมถึงไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลจากสหรัฐฯ เข้ามา

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (30) เจ้าหน้าที่กระทรวงการรวมชาติคนหนึ่งได้เสนอให้รัฐบาลเลื่อนการซ้อมรบกับสหรัฐฯ ออกไปก่อน เพื่อเปิดโอกาสในการรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ ทว่าโฆษกหญิงของกระทรวงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้

โฆษก ลี เผยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เสนอให้มีการจัดประชุมกับเจ้าหน้าที่โสมแดงผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และได้อนุมัติให้องค์กรบรรเทาทุกข์ภาคพลเรือน 2 กลุ่มเตรียมส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเกาหลีเหนือ

ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี


กำลังโหลดความคิดเห็น