นักวิจัยของรัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาประณามโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐฯ ว่าเป็น “แผนชั่วร้ายเพื่อกดดันชาติอื่นๆ” หลังมีชาติพันธมิตรอเมริกันบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้ออกมาเสนอว่าการบริจาควัคซีนหรือความช่วยเหลืออื่นๆ ให้แก่รัฐโสมแดงอาจนำไปสู่ความร่วมมือในอนาคต
บทความวิจารณ์ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.ค.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลเปียงยางคิดเช่นกัน
กัง ฮยอนชอล นักวิจัยอาวุโสจากสมาคมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (Association for the Promotion of International Economic and Technological Exchange) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศโสมแดง ได้ยกตัวอย่างพฤติกรรมต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่ใช้ความช่วยเหลือเป็นเครื่องมือเพื่อให้บรรลุซึ่งเป้าหมายด้านการต่างประเทศ หรือเพื่อกดดันชาติอื่นในประเด็นสิทธิมนุษยชน
“สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า อเมริกามีเจตนาแอบแฝง โดยนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาผูกโยงกับประเด็นสิทธิมนุษยชน เพื่ออ้างความชอบธรรมในการกดดันประเทศอื่น หรือเพื่อหวังผลทางการเมืองอันชั่วร้าย” กัง ระบุ
ตัวอย่างที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างนั้นยังรวมถึงกรณีของอัฟกานิสถานที่สหรัฐฯ เข้าไปทำสงครามต่อต้านกลุ่มตอลิบานนานเกือบ 20 ปี และมอบการสนับสนุนต่างๆ ให้แก่รัฐบาลคาบูล ทว่าในที่สุดก็ตัดสินใจจะถอนทหารอเมริกันชุดท้ายภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“ในความเป็นจริง หลายประเทศต้องเผชิญความขื่นขม เพราะคาดหวังการสนับสนุนและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอเมริกามากเกินไป” กัง กล่าว
แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะยืนยันว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เกาหลีเหนือ ทว่าที่ผ่านมายังไม่เคยส่งความช่วยเหลือโดยตรงไปยังรัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยวแห่งนี้
เกาหลีใต้รับปากว่าพร้อมจะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เกาหลีเหนือหากได้รับการร้องขอ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนก็เชื่อว่า การแสดงน้ำใจไมตรีในยามยากเช่นนี้อาจจะช่วยให้การเจรจาทางการทูตกับโสมแดงรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ได้
กระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ซึ่งดูแลกิจการข้ามแดนชี้ว่า บทความดังกล่าวไม่ใช่ “คำแถลงอย่างเป็นทางการ” จากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และทางกระทรวงจะยังแสวงหาลู่ทางความร่วมมือกับเปียงยางต่อไป เพื่อให้ประชากรของทั้ง 2 ชาติจะมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากโควิด-19
ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือมักเพิกเฉยต่อข้อเสนอมอบความช่วยเหลือจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ทว่ายอมรับความช่วยเหลืออย่างจำกัดจากจีนและรัสเซีย
ที่มา: รอยเตอร์