เอพี - ฟลอริดารายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ 21,683 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับจากโควิดเริ่มระบาด และทำให้รัฐนี้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ถึงแม้บรรดาธีมปาร์กรีสอร์ตเริ่มขอให้ลูกค้าและพนักงานกลับมาสวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคารอีกครั้ง แถมสมาคมโรงพยาบาลยังเตือนว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวใกล้ถึงสถิติสูงสุดของปีที่แล้ว แต่ผู้ว่าการรัฐกลับคัดค้านการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากาก พร้อมระบุสาเหตุมาจากปัจจัยตามฤดูกาลเท่านั้น
จำนวนเคสใหม่ของฟลอริดาที่เท่ากับ 1 ใน 5 ของยอดรวมในสหรัฐฯ ทำให้รัฐนี้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดโดยมีตัวการสำคัญคือไวรัสสายพันธุ์เดลตา
แต่ถึงกระนั้น รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ยังคงคัดค้านการออกคำสั่งให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากและฉีดวัคซีน รวมทั้งยังร่วมกับรัฐสภาของรัฐจำกัดความสามารถของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการบังคับใช้มาตรการสกัดการระบาดที่เข้มงวดขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) ดีแซนทิส ห้ามเขตการศึกษาต่างๆ บังคับให้นักเรียนต้องสวมหน้ากากในภาคการศึกษาใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น
จำนวนผู้ติดเชื้อ 21,683 คนได้รับการบันทึกในวันศุกร์และเผยแพร่ในวันต่อมา (31 ก.ค.) บนเว็บไซต์ของศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกา (ซีดีซี) โดยตัวเลขนี้สะท้อนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากในรัฐนี้ จากวันพฤหัสบดี (29 ก.ค.) ที่ตัวเลขยังอยู่ที่ 17,093 คน และเทียบกับสถิติสูงสุดของรัฐนี้ที่ 19,334 คนเมื่อวันที่ 7 มกราคม ก่อนที่จะมีการปูพรมฉีดวัคซีน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟลอริดามีผู้เสียชีวิตจากโควิด 409 คน รวมยอดสะสมกว่า 39,000 คนนับจากพบผู้เสียชีวิตครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2020 และไวรัสโคโรนาระบาดหนักที่สุดในรัฐนี้ช่วงกลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้วโดยมีผู้เสียชีวิต 1,266 คนในช่วง 7 วัน และปกติแล้วการเสียชีวิตจะเกิดขึ้น 2-3 สัปดาห์หลังจากจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น
ดีแซนทิส ระบุว่า การที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นในขณะนี้เป็นปัจจัยด้านฤดูกาล เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าวทำให้คนจำนวนมากหลบอยู่ในบ้าน และการเปิดเครื่องปรับอากาศส่งผลให้ไวรัสหมุนเวียนอยู่ภายในบ้าน ทั้งนี้ 60% ของชาวฟลอริดาที่อายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนแล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สมาคมโรงพยาบาลแห่งฟลอริดา ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลขณะนี้ใกล้ถึงสถิติสูงสุดของปีที่แล้ว และเซนทรัล ฟลอริดา ดิวิชันของแอดเวนต์เฮลธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบบริการดูแลสุขภาพใหญ่ที่สุดของฟลอริดา ประกาศงดให้บริการผ่าตัดที่ไม่ใช่กรณีฉุกเฉินเพื่อรักษาทรัพยากรไว้รองรับผู้ป่วยโควิด
นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ ยูนิเวอร์แซล ออร์แลนโด รีสอร์ต และซีเวิลด์กลายเป็นธีมปาร์กรีสอร์ตกลุ่มล่าสุดในฟลอริดาที่ขอให้นักท่องเที่ยวกลับมาสวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคาร รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำล่าสุดของหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐบาลกลาง โดยยูนิเวอร์แซลยังขอให้พนักงานสวมหน้ากากด้วยเช่นกัน รวมทั้งเริ่มใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ดิสนีย์ เวิลด์เริ่มขอให้พนักงานและลูกค้าอายุ 2 ปีขึ้นไปสวมหน้ากาก และเตรียมประกาศให้พนักงานประจำและพนักงานรายชั่วโมงที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในอเมริกาต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประกาศว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในฟลอริดาในช่วงสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นถึง 50%
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธีมปาร์กรีสอร์ตหลายแห่งในฟลอริดาเกิดขึ้นหลังจากซีดีซีประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วให้ทุกคนสวมหน้ากากขณะอยู่ภายในอาคาร ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม