xs
xsm
sm
md
lg

‘มะกัน’ กลับลำแนะฉีดวัคซีนแล้วยังต้องสวมแมสก์ ‘เดลตา’ สุดร้ายดันเคสใหม่โตเกียวทุบสถิติ 2 วันซ้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อเมริกากลับลำครั้งใหญ่ หันมาแนะผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องสวมหน้ากากป้องกัน ตอกย้ำปัญหาความยากลำบากในการรับมือการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ “เดลตา” เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ จำนวนมากทั่วโลก ทางด้านญี่ปุ่นที่กำลังเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปรากฏว่าจำนวนเคสใหม่ในกรุงโตเกียวทำนิวไฮ 2 วันซ้อน และทะลุ 3,000 คน เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ที่รายงานยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดครั้งใหม่ ส่วนออสเตรเลียนั้น ซิดนีย์ต้องล็อกดาวน์ต่อถึงปลายเดือนหน้า

โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) แถลงเมื่อวันอังคาร (27 ก.ค.) ว่า ซีดีซีแนะนำประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีการระบาดหนาแน่นและพื้นที่ซึ่งการระบาดอยู่ในอัตราสูง ให้สวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคารที่เป็นพื้นที่สาธารณะ

คำแนะนำใหม่นี้ออกมา ทั้งๆ ที่เพียงในสัปดาห์ที่แล้ว ซีดีซียังปกป้องการตัดสินใจของตนเองที่สร้างความประหลาดใจไปทั่วเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ประกาศให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายในอาคารในสถานที่ส่วนใหญ่

ทั้งนี้ พื้นที่มีการระบาดหนาแน่นหมายถึงมีผู้ติดเชื้อ 50-100 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 7 วัน ส่วนพื้นที่มีการระบาดอัตราสูงคือ 100 คนขึ้นไป

วาเลนสกี ย้ำว่า แม้การฉีดวัคซีนช่วยลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต แต่งานวิจัยใหม่ๆ ของซีดีซีพบว่า ผู้ฉีดวัคซีนที่ติดเชื้อยังคงมีปริมาณไวรัสในเลือด--ซึ่งหมายถึงโอกาสในการแพร่เชื้อ มากพอๆ กับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

วันเดียวกันนั้น ทำเนียบขาวสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากเนื่องจากพบการระบาดเพิ่มขึ้นในกรุงวอชิงตัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า คำแนะนำของซีดีซีแสดงให้เห็นว่า อเมริกาจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามในการจัดฉีดวัคซีนให้ประชาชน และสำทับว่า กำลังพิจารณาบังคับให้พนักงานลูกจ้างภาครัฐกว่า 2 ล้านคนต้องฉีดวัคซีน

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอเมริกา มีถึง 90% ที่ติดเชื้อจากสายพันธุ์เดลตา ขณะที่จำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วอยู่ที่ 59% ของประชากรทั้งหมด

ส่วนที่โตเกียว ซึ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ในขณะนี้ รายงานเมื่อวันพุธ (28) ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จำนวน 3,177 คน ถือเป็นสถิติสูงสุดติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากยอด 2,848 คนในวันอังคาร ทำลายสถิติเดิมซึ่งอยู่ที่ 2,520 คนของเมื่อวันที่ 7 มกราคม

ขณะเดียวกัน คณะผู้จัดโตเกียว โอลิมปิกเปิดเผยในวันพุธว่า พบผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมกีฬานี้เพิ่มอีก 16 คน รวมเป็น 169 คนนับจากวันที่ 1 ที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจซึ่งเป็นหัวหน้าทีมรับมือโควิด-19 ยังแถลงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่า 3 จังหวัดที่อยู่ใกล้โตเกียวเตรียมขอให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ของตนโดยเร็วที่สุดตั้งแต่วันพฤหัสฯ (29) และเขายังคาดว่า จำนวนเคสใหม่จะเพิ่มขึ้นต่อไปในช่วงหลายวันนับจากนี้ อันสืบเนื่องมาจากความล่าช้าในการตรวจหาผู้ติดเชื้อในช่วงวันหยุดสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ โตเกียวอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินรอบที่ 4 ซึ่งจะกินเวลาไปจนถึงหลังจบโอลิมปิก ส่วนอีก 3 จังหวัดใกล้เคียงเวลานี้ใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน

วันพุธเช่นกัน เกาหลีใต้ที่เผชิญการระบาดระลอก 4 รายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่ามี 1,896 คน ทำลายสถิติรายวันสุงสุดเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่ 22 เดือนนี้ นอกจากนั้น โรคระบาดยังมีการลุกลามออกนอกกรุงโซลและปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้กฎการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับเข้มงวดที่สุด

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคดีซีเอ) รายงานว่า ผู้ติดเชื้อ 1,823 คนในวันอังคารมาจากการระบาดภายในประเทศ และ 33.5% หรือ 611 คนอยู่นอกกรุงโซลและปริมณฑล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขเกิน 600 คนนับจากคลัสเตอร์โบสถ์ในเมืองแทกู

รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มยกระดับมาตรการสกัดไวรัสสู่ระดับ 3 ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตั้งแต่วันอังคารและจะมีผลบังคับใช้ 2 สัปดาห์ โดยห้ามรับประทานอาหารในร้านอาหารหลัง 22.00 น. และห้ามรวมกลุ่มเกิน 4 คน ขณะที่เขตเมืองหลวงและปริมณฑลยังคงใช้มาตรการระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่รวมถึงการห้ามรวมกลุ่มเกิน 2 คนหลัง 18.00 น.

ด้านนครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย เมื่อวันพุธได้ประกาศต่อเวลาคำสั่งล็อกดาวน์ออกไปอีก 1 เดือนจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม หลังจากใช้มาตรการเข้มงวดนี้มาแล้วเกือบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากยังไม่สามารถสยบสายพันธุ์เดลตาได้ ขณะที่การฉีดวัคซีนอยู่ในอัตราต่ำ โดยในวันเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 177 คน

สำหรับเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแดนจิงโจ้ ยุติมาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 5 แล้ว หลังจากกำราบสายพันธุ์เดลตาได้ ถือเป็นการสยบครั้งที่ 2 ในรอบเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)




กำลังโหลดความคิดเห็น