xs
xsm
sm
md
lg

อิสราเอลพบประสิทธิภาพวัคซีนไฟเซอร์ลดเหลือ 39% หลังเดลตาอาละวาดหนัก แต่ยังป้องกันป่วยหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบออนเทค ประสิทธิภาพลดลงเหลือเพียงแค่ 39% ในอิสราเอล ดินแดนที่ตัวกลายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลัก อย่างไรก็ตามมันยังมอบการป้องกันอย่างแข็งแกร่งต่อการติดเชื้ออาการหนักและเข้าโรงพาบาล สำนักข่าวซีเอ็นบีซีของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันศุกร์ (23 ก.ค.) อ้างอิงรายงานฉบับใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล

ตัวเลขประสิทธิภาพดังกล่าวซึ่งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ไม่เจาะจงจำนวนคนระหว่างวันที่ 20 มิถุนายนถึง 17 กรกฎาคม นับว่าลดลงอย่างมากจากการประมาณการก่อนหน้านี้เมื่อ 2 สัปดาก่อน ซึ่งอยู่ที่ 64% และขัดแย้งกับข้อมูลที่ออกมาจากสหราชอาณาจักร ซึ่งพบว่าวัคซีนของไฟเซอร์และไบออนเทคมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการที่มีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตาถึง 88% ตามรายงานของเอ็นบีซีนิวส์

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.ค.) ระบุว่าวัคซีน 2 เข็มของไฟเซอร์และไบออนเทค ยังคงได้ผลเป็นอย่างดีในการป้องกันผู้คนจากการป่วยหนัก มีประสิทธิภาพป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 88% และมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรงถึง 91%

"เราจำเป็นต้องใส่ใจ พอเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลง" นายแพทย์ไอแซก โบก็อคช์ ศาสตราจารย์ด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยโทรอนโตกล่าว แต่เน้นย้ำว่า วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง ซึ่งช่วยให้ระบบสาธารณสุขไม่ต้องตกอยู่ในสภาพรองรับไม่ไหว ในขณะที่อีกไม่นานจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวยาวนานหลายเดือน "เรายังคงอยู่ในยุคโควิดและทุกอย่างเกิดขึ้นได้"

"เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมและเราจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความว่องไว ด้วยบางทีประชาชนอาจจำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง" เขากล่าว "กำลังมีการจับตามองอย่างใกล้ชิดกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศต่างๆ อย่างเช่นอิสราเอล สหราชอาณาจักรและพื้นที่อื่นๆ ของโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากในการขับเคลื่อนนโยบายว่าจำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นหรือไม่ และถ้าฉีดควรดำเนินการเมื่อไหร่"

ตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบในประเทศและดินแดนต่างๆ มากกว่า 104 แห่งทั่วโลก กำลังก่อความกังวลแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐฯ ในขณะที่พวกเขาพบเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แม้คนเหล่านั้นจะมีอาการเล็กน้อยก็ตาม

นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ทำเนียบขาว ระบุว่า อาจจำเป็นต้องพิจารณากำหนดให้คนฉีดวัคซีนครบแล้วสวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่ร่ม ส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกันไว้ก่อนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาในสหรัฐฯ

พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขสหรัฐฯกังวลเกี่ยวกับฤดูใบไม่ร่วงที่กำลังคืบคลานเข้ามา ซึ่งคาดหมายว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาจะเล่นงานรัฐต่างๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำหนักหน่วงที่สุด จนกว่ารัฐเหล่านั้และภาคธุรกิจทั้งหลายจะกลับมาบังคับใช้กฎระเบียบด้านการสวมหน้ากากอีกครั้ง เช่นเดียวกับมาตรการด้านสาธารณสุขอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่ถูกยกเลิกไปแล้ว

รายงานข่าวจากอิสราเอล ซึ่งเริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ดูเหมือนจะเป็นการเสริมข้อโต้แย้งของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนทั้งหลาย ว่า ท้ายที่สุดผู้คนคงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อป้องกันตัวกลายพันธุ์ที่กำลังปรากฏตัวขึ้นมา

ไฟเซอร์ระบุก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทเริ่มเห็นภูมิคุ้มกันจากวัคซีน 2 เข็มค่อยๆ ลดลง และตอนนี้มีแผนขออนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ สำหรับฉีดเข็มกระตุ้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางบอกว่าอเมริกันชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วยังไม่จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นในเวลานี้

ในถ้อยแถลงที่ส่งถึงซีเอ็นบีซี ไฟเซอร์ระบุว่ายังคงมั่นใจในวัคซีน 2 เข็ม ในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และบรรดาตัวกลายพันธุ์ของมัน อย่างไรก็ตาม ไฟเซอร์ บอกว่าเข็มที่ 3 อาจช่วยได้มาก หลังผลวิเคราะห์จากการศึกษาเฟส 3 พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการลดลงหลังผ่านไป 4 ถึง 6 เดือน

(ที่มา : ซีเอ็นบีซี)


กำลังโหลดความคิดเห็น