หมู่บ้านนักกีฬาโตเกียวโอลิมปิก พบผู้ติดโควิด-19 คนที่ 4 ในวันจันทร์ (19 ก.ค.) ยิ่งตอกย้ำความกังวลของคนญี่ปุ่น และขณะที่หลายประเทศในเอเชียอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้น อังกฤษกลับเริ่มปลดล็อกข้อจำกัดเกือบทั้งหมด ท่ามกลางคำเตือนและการโจมตีว่า ลอนดอนกำลังชะล่าใจและโง่เขลาด้านระบาดวิทยา
นักวอลเลย์บอลชายหาดจากสาธารณรัฐเช็ก กลายเป็นผู้ติดเชื้อคนที่ 4 และเป็นนักกีฬาคนที่ 3 ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่บ้านนักกีฬาของโตเกียวโอลิมปิก ที่นักกีฬาหลายพันคนจะต้องอยู่ร่วมกัน ภายใต้ระบบ “บับเบิล” เพื่อป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงนี้
นอกจากนี้ ยังมีนักฟุตบอลชายของแอฟริกาใต้ 21 คน ถูกกักตัวหลังสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
มาสะ ทากายะ โฆษกของโตเกียวโอลิมปิก 2020 แถลงว่า มีผู้ติดโควิดจำนวน 61 คน ที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิก ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่หลายพันคนที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และสำทับว่า คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และโตเกียว 2020 รับรองว่า หมู่บ้านนักกีฬาปลอดภัย และมาตรการที่ใช้อยู่ทั้งหมดช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ นักกีฬาจะต้องตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาทุกวัน เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลา ยกเว้นตอนแข่ง รับประทานอาหาร และนอน
โตเกียวโอลิมปิก 2020 กำหนดเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ (23) นี้ ในสนามกีฬาที่เกือบร้างผู้ชม ขณะที่กรุงโตเกียวก็ตกอยู่ใต้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันเชื้อโควิดหลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูง โดยในวันเสาร์ (17) ที่ผ่านมา เพิ่งทำสถิติใหม่เรื่องจำนวนเคสติดเชื้อใหม่รายวัน โดยอยู่ที่ 1,410 คน สูงสุดนับจากต้นปี และเกินหลัก 1,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 5
นอกจากนั้น ในวันจันทร์ หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุงยังรายงานผลสำรวจความคิดเห็นชาวญี่ปุ่นที่พบว่า 68% ไม่แน่ใจว่าผู้จัดโอลิมปิกสามารถควบคุมโควิดได้ และ 55% ไม่เห็นด้วยกับการจัดโอลิมปิก
ล็อกดาวน์เอเชีย
ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก นับจากอุบัติขึ้นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2019 และบางประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้ายที่สุดจากไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา
ช่วงไม่กี่วันมานี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันแซงหน้าอินเดียและบราซิลที่เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ของโลกไปแล้ว ซ้ำยังทำสถิติใหม่เรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตของแดนอิเหนา โดยอยู่ที่ 1,205 คนเมื่อวันศุกร์ (16)
นอกจากนั้น ยังมีความกังวลกันว่า ผู้ที่เดินทางไปร่วมฉลองเทศกาลอีดิลอัฎฮา อาจทำให้โควิดระบาดหนักขึ้น ทำให้ทางการอินโดนีเซียต้องสั่งปิดถนนในวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลวันหยุด 3 วัน
วันเดียวกันนั้น ฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ประกาศมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน โดยประชาชนหลายล้านคนต้องกักตัวที่บ้าน หลังจากจำนวนเคสใหม่ทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์พุ่งทำสถิติใหม่
ด้านออสเตรเลียแม้มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยกว่าประเทศส่วนใหญ่ แต่ยังควบคุมสถานการณ์การระบาดใน 2 เมืองใหญ่ที่สุดคือซิดนีย์และเมลเบิร์นไม่ได้ ทำให้ต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นต่อ
อังกฤษเริ่ม “ฟรีดอมเดย์”
ขณะเดียวกัน แม้มีคำเตือนและการโจมตีว่า ชะล่าใจ อีกทั้งยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งขึ้นวันละร่วมๆ 50,000 คน แต่รัฐบาลอังกฤษก็เริ่มต้นยกเลิกมาตรการป้องกันการระบาดเกือบทั้งหมดตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งรวมถึงคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมและการสวมหน้ากาก
สนามกีฬา โรงหนัง โรงละคร ไนต์คลับได้รับอนุญาตให้เปิดได้เต็มที่ตามปกติตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 06.00 น.วันจันทร์ เวลาเมืองไทย)
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่ต้องกักตัวหลังรัฐมนตรีสาธารณสุขติดโควิด ปกป้องแผนการนี้ที่สื่อบางสำนักเรียกว่า “วันแห่งอิสรภาพ” โดยระบุว่า โครงการเร่งรัดฉีดวัคซีนทำให้ความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขอยู่ในระดับที่จัดการได้ แต่สำทับว่า ประชาชนยังต้องระมัดระวังตัวเอง
ทว่า เกเบรียล สกัลลี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยบริสตอล กล่าวหาว่า การยกเลิกมาตรการป้องกันโควิดก่อนที่โรคระบบทางเดินหายใจจะมาพร้อมฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้ศีลธรรมและความโง่เขลาด้านระบาดวิทยา
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)