อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงวันนี้ (10 ก.ค.) ว่าสหภาพยุโรปบรรลุเป้าหมายส่งมอบวัคซีนสำหรับฉีดป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมประชากรวัยผู้ใหญ่ 70% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รัฐบาล 27 ประเทศในอียูต่างรับผิดชอบดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนให้แก่พลเมืองของตนเอง และถึงแม้ว่าบางชาติอาจจะก้าวไปได้เร็วกว่าเพื่อน แต่ ฟอน เดอร์ เลเยน ย้ำว่า ท้ายที่สุดแล้ว “อียูทำได้ตามที่สัญญาไว้”
โครงการจัดหาวัคซีนร่วมของอียูซึ่งอยู่ในความดูแลของคณะกรรมาธิการยุโรปได้ทำการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคจำนวน 330 ล้านโดส วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 100 ล้านโดส วัคซีนโมเดอร์นา 50 ล้านโดส และวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันอีก 20 ล้านโดส กระจายไปยังรัฐสมาชิก ซึ่งมีประชากรวัยผู้ใหญ่รวมกันราวๆ 366 ล้านคน
ทั้งนี้ วัคซีนทุกตัว (ยกเว้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน) จำเป็นต้องฉีดคนละ 2 โดส เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันสูงสุดต่อโควิด-19
“ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เราได้ส่งมอบวัคซีนมากพอที่รัฐสมาชิกจะนำไปฉีดให้แก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ 70% ภายในเดือน ก.ค. และภายในวันพรุ่งนี้ (11) ยอดการส่งมอบวัคซีนทั่วยุโรปจะทะลุ 500 ล้านโดส” ฟอน เดอร์ เลเยน ระบุ
“โควิด-19 ยังไม่ถูกกำจัดหมดไป แต่เรามีความพร้อมที่จะจัดส่งวัคซีนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ รัฐสมาชิกทุกประเทศจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้โครงการฉีดวัคซีนเดินหน้าต่อ เมื่อนั้นพวกเราทุกคนจึงจะปลอดภัย”
คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งแต่เดิมไม่ได้มีบทบาทในด้านสาธารณสุขมากนัก ตัดสินใจยื่นมือเข้ามาประสานงานเพื่อจัดหาวัคซีนร่วมให้แก่ประเทศสมาชิก หลังจากที่โควิด-19 เริ่มแพร่เข้าสู่ภูมิภาคยุโรปเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลต่างๆ และบุคลากรด้านสาธารณสุขนำวัคซีนที่ได้รับไปฉีดให้แก่พลเมืองอย่างครอบคลุมโดยเร็วที่สุด ซึ่งข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป (ECDC) ระบุว่า ขณะนี้ยังมีประชากรวัยผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 18 ปีในอียูและเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้วเพียงแค่ 44.1%
ที่มา : เอเอฟพี