WHO เผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดทะลุหลัก 4 ล้านคนแล้ว และขณะที่พวกชาติร่ำรวยในสหรัฐฯ ตลอดจนยุโรปเตรียมผ่อนคลายข้อจำกัดคุมเข้มทั้งหลายอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศในเอเชียกลับต้องฟื้นมาตรการล็อกดาวน์ โดยที่เวลานี้อินโดนีเซียกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ซึ่งถูกจับตามอง ส่วนญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในโตเกียวตลอดช่วงการแข่งขันโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นปลายเดือนนี้ ด้านเวียดนามผู้เป็นเจ้าภาพขอเลื่อนการแข่งซีเกมส์ในปีนี้ไปจัดปีหน้า และเกาหลีใต้ก็อาจใช้มาตรการกึ่งล็อกดาวน์ในโซลหลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทำสถิติใหม่เมื่อวันพฤหัสฯ (8 ก.ค.)
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงในวันพุธ (7) เรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโควิด-19 ทะลุหลัก 4 ล้านคน โดยสำทับว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นการประเมินต่ำเกินความจริงด้วยซ้ำ พร้อมกันนี้ เขายังตำหนิประเทศมั่งคั่งที่กักตุนวัคซีนและอุปกรณ์ป้องกันไวรัส ซ้ำยังทำเหมือนโรคระบาดจบแล้วด้วยการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเข้มงวดต่างๆ
ตัวอย่างเช่นอังกฤษที่เผชิญการระบาดรอบใหม่ แต่โครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากช่วยให้จำนวนผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตลดจำนวนลงอย่างชัดเจน และรัฐบาลก็เตรียมเดินหน้ายกเลิกมาตรการจำกัดเกือบทั้งหมดเร็วๆ นี้
ทว่า ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของ WHO เตือนว่า แม้ประชาชนจำนวนมากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อยังสามารถพุ่งขึ้นต่อไป ดังนั้น จึงต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการพิจารณายกเลิกมาตรการด้านสาธารณสุขและสังคมในขณะนี้
สถานการณ์ของอังกฤษตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับอินโดนีเซีย ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการระบาดของโลกในขณะนี้ไปแล้ว โดยที่รัฐบาลออกประกาศให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านถ้าทำได้ รวมทั้งจำกัดชั่วโมงการทำงานทั่วประเทศ หลังจากเมื่อวันพุธ (7) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 1,040 คน เท่ากับสูงขึ้นเป็น 10 เท่าตัวในรอบ 1 เดือน
ขณะเดียวกัน การระบาดระลอกใหม่ทำให้เวียดนามสั่งล็อกดาวน์โฮจิมินห์ซิตี รวมทั้งประกาศขอเลื่อนการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ไปเป็นปีหน้า เช่นเดียวกับพม่าที่ประกาศล็อกดาวน์หลายพื้นที่ในเมืองย่างกุ้ง
ประชาชน 5 ล้านคนในซิดนีย์ เมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย ที่ถูกล็อกดาวน์มาแล้ว 2 สัปดาห์ จะต้องกักตัวอยู่บ้านต่ออีกสัปดาห์หลังพบเคสใหม่ 27 คน และวันพฤหัสฯ (8) รัฐบาลประกาศแผนเร่งจัดส่งวัคซีน 300,000 โดสไปยังซิดนีย์ เพื่อพยายามควบคุมการระบาดของสายพันธุ์เดลตา
ทั้งนี้ นับจากที่ไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นในจีนเมื่อกว่า 18 เดือนที่แล้ว โลกยังคงต้องผจญกับโรคร้ายนี้โดยไม่เห็นแววชนะ ที่ชัดเจนมากคือวงการกีฬาที่หลายงานต้องแข่งขันโดยไม่เปิดให้คนเข้าไปเชียร์ในสนาม หลายงานถึงกับต้องเลื่อน หรือยกเลิกไปเลย
วันพฤหัสฯ นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ประกาศว่า โตเกียวจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินตลอดช่วงการแข่งขันโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 เดือนนี้ถึง 8 เดือนหน้า โดยมาตรการฉุกเฉินจะเริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ (12) จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม
ขณะที่ยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบวิกฤตไวรัส ระบุว่า ขณะนี้ผู้ป่วยราว 30% ติดไวรัสสายพันธุ์เดลตา เฉพาะในโตเกียวมีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ 896 คนในวันพฤหัสฯ ซึ่งเกือบถึงสถิติสูงสุดเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม
ที่เกาหลีใต้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,275 คนในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงวันพุธ ซึ่งถือเป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ โดย 80% ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อภายในท้องถิ่นที่พบในโซลและปริมณฑล ได้แก่ กรุงโซล จังหวัดคย็องกี และเมืองอินชอน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า กำลังจับตาจำนวนผู้ติดเชื้อในโซลในวันพฤหัสฯ ซึ่งหากยังสูงกว่า 389 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่พบเคสใหม่ 557 คน และ 545 คนในอังคาร (6) และพุธตามลำดับแล้ว จะทำให้ต้องปรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในเมืองหลวงเป็นระดับ 4 โดยอัตโนมัติ
มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 4 กำหนดให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเท่าที่เป็นไปได้ ปิดโรงเรียน ไนต์คลับและบาร์ ส่วนร้านอาหารและร้านกาแฟเปิดได้แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ และห้ามพบปะในที่สาธารณะเกิน 2 คน
นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยุม กล่าวว่า รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์ตลอดสัปดาห์นี้และหารือแนวโน้มการยกระดับมาตรการจำกัดในโซลและพื้นที่อื่นๆ ในการประชุมวันอาทิตย์นี้ (11)
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
