ตำรวจเฮติวิสามัญ 4 ศพกลุ่มมือปืนรับจ้างที่พวกเขาระบุว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารประธานาธิบดี โฌเวแนล โมอิส ในวันพุธ (7 ก.ค.) และควบคุมตัวได้อีก 2 คน ในเหตุสะเทือนขวัญที่ผลักประเทศยากจนและกำลังเผชิญวิกฤตแห่งนี้ถลำเข้าสู่ความไร้เสถียรภาพยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจเฮติไม่ได้ระบุตัวตนของพวกผู้ต้องสงสัยหรือแรงจูงใจในการก่อเหตุยิงสังหารโมอิส และทำให้ มาร์ทีน ภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ณ บ้านพักส่วนตัวของทั้งคู่ในกรุงปอร์โตแปงซ์ ในช่วงเช้ามืดวันพุธ (7 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
ด้วยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังเร่งจัดประชุมฉุกเฉิน ซึ่งกำหนดไว้ในช่วงเที่ยงวันของวันพฤหัสบดี (8 ก.ค.) รักษาการนายกรัฐมนตรี โคล้ด โจเซฟ ได้ประกาศกฎอัยการศึก และบอกว่าเวลานี้เขารับผิดชอบบริหารประเทศ
สนามบินในกรุงปอร์โตแปงซ์ปิดทำการ แต่ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่าในตัวเมืองบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ท้องถนนเวิ้งว้างและไม่พบเห็นกองกำลังความมั่นคงออกลาดตระเวนเพิ่มเติมเป็นพิเศษแต่อย่างใด
ตำรวจเปิดเผยในช่วงค่ำวันพุธ (7 ก.ค.) ว่าพวกเขายกระดับสอดส่องทั่วเมืองเข้มข้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตี
“มือปืนรับจ้าง 4 คนถูกวิสามัญ อีก 2 คนอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา ตำรวจ 3 นายที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้รับความช่วยเหลือแล้ว” ลีออน ชาร์ลส์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเฮติกล่าว
เหตุลอบสังหารเกิดขึ้นตอนเวลาราวๆ 01.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 12.00 น.) ที่บ้านพักส่วนตัวของโมอิส ปลอกกระสุนพบเห็นตกอยู่บนถนนนอกบ้าน ระหว่างที่พวกผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อค้นหาหลักฐาน และรถยนต์คันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆ กันมีรอยกระสุนเต็มคัน บานกระจกข้างหนึ่งแตกกระจัดกระจาย
เดิมทีภรรยาของประธานาธิบดีถูกพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แต่จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็รุดลำเลียงทางอากาศนำส่งโรงพยาบาลในไมอามี สหรัฐฯ เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม โจเซฟเผยว่า “เธอปลอดภัยแล้ว“” และต่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “อาการของเธอทรงตัว”
นายกรัฐมนตรีโจเซฟเผยว่ามือสังหารประธานาธิบดีที่บ้านพักเป็นชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษและสเปน “เพื่อนร่วมชาติของผม จงอยู่ในความสงบเพราะสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว” โจเซฟกล่าว “มันสร้างความเจ็บปวดแก่ประเทศแห่งนี้ แต่มันจะไม่ถูกปล่อยให้ลอยนวลโดยไม่ถูกลงโทษ”
บ็อคชิต เอดมอนด์ เอกอัครราชทูตเฮติประจำสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มมือปืนรับจ้างมืออาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ “เรามีวิดีโอหนึ่ง และเราเชื่อว่าคนเหล่านี้เป็นมือปืนรับจ้าง”
โมอิสปกครองเฮติภายใต้กฤษฎีกามานาน หลังศึกเลือกตั้งทั่วไปซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2018 ถูกเลื่อนออกมา
นอกเหนือจากความวุ่นวายทางการเมืองแล้ว เหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่ยังทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงอิทธิพลที่ตอบโต้ขึ้นเรื่อยๆ ของแก๊งติดอาวุธภายในประเทศแห่งนี้
ขณะเดียวกันเฮติยังเผชิญต่อปัญหาความขัดสนเรื้อรังและภัยพิบัติทางธรรมชาติระลอกแล้วระลอกเล่า
ความไร้เสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้เฮติ ซึ่งมีประชากร 10.2 ล้านคน เป็นหนึ่งในชาติที่ยากจนที่สุดในทวีปอเมริกา
มาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ที่เลวร้ายลง ทำให้คนเกือบ 60% ของประเทศมีชีวิตอยู่ภายใต้เส้นความยากจน
แผ่นดินไหวปี 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน และทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก
กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้เข้ามาประจำการในเฮติในปี 2004 เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของประเทศ และเพิ่งถอนกำลังออกไปเมื่อปี 2017 แต่ความวุ่นวายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง
ทั้งนี้ เฮติประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศแด่การจากไปของโมอิส เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดี (8 ก.ค.) เป็นต้นไป
(ที่มา : เอเอฟพี)