‘สี จิ้นผิง’ เสนอทางเลือกพัฒนาโลกยุคใหม่ ตอกหน้าสหรัฐฯ “ออกคำสั่งประชาธิปไตย”

ไม่ทันข้ามสัปดาห์ที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวคำปราศรัยใหญ่ในวาระครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในวานนี้(6 ก.ค.) ยังได้แถลงในซัมมิตการเมืองระหว่างประเทศ ประกาศแก่โลกว่า “การพัฒนาความทันสมัยของจีนได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นแนวทางเลือกที่ใช้ได้ในเชิงปฏิบัติจริง เป็นแนวทางที่ใช้แทนที่ธรรมาภิบาลของระบบตะวันตกได้ โดยจีนพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนายุคปัจจุบันกับประเทศอื่นๆ

“ประวัติศาสตร์และการปฏิบัติจริงที่ผ่านมาได้พิสูจน์และแสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ว่าเส้นทางที่จีนดำเนินอยู่นี้ถูกต้อง...และเราจะเดินทางต่อไปบนเส้นทางที่มีอนาคตสดใสนี้ซึ่งจะสร้างคุณูปการแก่ประเทศชาติของเราเองและแก่โลก” คำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการซัมมิตพรรคการเมืองโลก (World Political Parties Summit) ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศแห่งจีน (Communist Party’s International Department) เป็นผู้จัดโดยเป็นการประชุมผ่านวิดีโอลิงค์จากปักกิ่ง

ประมุขแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวอีกว่า “ไม่มีโมเดลการพัฒนายุคใหม่แบบเดียวเท่านั้นที่เหมาะกับทุกเขตภูมิภาค/ชาติทั้งหมดในโลก ประเทศต่างๆต้องแสวงหาแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา”

“พรรคคอมมิวนิสต์จีนพร้อมแลกเปลี่ยนและแบ่งปันประสบการณ์กับพรรคการเมืองในทุกๆประเทศ...ดังนั้นเราจึงสามารถสร้างสิ่งดีๆให้กับทั้งประชาชนในประเทศเราเองและประชาชนทั่วโลก”

ซัมมิตฯนี้จัดขึ้นหลังจากที่สีได้ประชุมผ่านวิดีโอกับผู้นำยุโรปเมื่อวันจันทร์(5 ก.ค.) ได้แก่ นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี นางอังเกลา แมร์เคิล และประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส แอมานุแอล มาครง ระหว่างการประชุมนี้สีแสดงความหวังว่า “ยุโรปจะมีบทบาทมากขึ้นในกิจการระหว่างประเทศ และความร่วมมือรักษาสันติภาพโลก”

ระหว่างแถลงในซัมมิตฯเมื่อวันอังคาร สีได้หวดโจมตีสหรัฐอเมริกาโดยชี้ว่าไม่มีประเทศไหนจะมาออกคำสั่งการปฏิรูประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ แต่ละประเทศก็มีแนวทางการแก้ไขปัญหาของตัวเอง

“เส้นทางสร้างความสงบสุขในพื้นที่ต่างๆแตกต่างกัน และประชาชนในประเทศต่างๆก็ควรได้เลือกการพัฒนาของพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นแนวทาง ระบบ และรูปแบบ” สี กล่าว และเน้นย้ำว่าการพัฒนาประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นมีอยู่หลายทาง

นอกจากนี้ สียังพูดถึงสหรัฐฯโดยไม่เอ่ยนามตรงๆว่า “ประเทศที่คว่ำบาตรจีนจากข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในซินเจียงและฮ่องกงนั้นเป็นข้ออ้างเพื่อปิดกั้นด้านเทคโนโลยี ช่องว่างทางวิทยาศาสตร์ หรือขวางทางก้าวหน้าในการพัฒนา เป็นการเคลื่อนไหวการเมืองที่คุกคามการพัฒนาของประเทศต่างๆซึ่งประชาชนจะไม่เอาด้วย และล้มเหลวในที่สุด ”

สีกล่าวว่าจีนประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนสมบูรณ์ (absolute poverty) ภายในประเทศ และยังมีศักยภาพที่จะช่วยการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดยจีนพร้อมสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาเสมอ