บริษัทน้ำมันแห่งชาติเม็กซิโก (Pemex) ยืนยันเหตุเพลิงไหม้บนผิวน้ำทะเลใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพนักงานสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ขณะที่องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมติงยังเร็วเกินไปที่จะสรุป
คลิปวิดีโอซึ่งบันทึกโดยเฮลิคอปเตอร์เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เผยให้เห็นเปลวเพลิงสีส้มขนาดใหญ่พุ่งขึ้นเหนือผิวน้ำทะเลจนหลายคนให้ฉายาว่า “ดวงตาแห่งไฟ”
Pemex ยอมรับว่าต้องใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงจึงสามารถทำให้ไฟดับสนิทลงได้
“ไม่มีน้ำมันรั่วไหล และเราได้มีมาตรการควบคุมเพลิงบนผิวน้ำอย่างทันที เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” รัฐวิสาหกิจน้ำมันแดนจังโก้ระบุวานนี้ (5 ก.ค.)
ทางบริษัทยังชี้แจงว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้ท่อก๊าซใต้ทะเลแตกจนเกิดการรั่วไหล
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งจากบรรดาชาวเน็ตเรื่อยไปจนถึงนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดังอย่าง “เกรตา ธันเบิร์ก” และนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก บิล เดอ เบลซิโอ
จุดที่ไฟไหม้อยู่ใกล้ๆ กับแท่นขุนเจาะน้ำมันของ Pemex ซึ่งเคยมีประวัติเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางอุตสาหกรรมมาแล้วหลายครั้ง
กุสตาโว อลานิส จากสำนักงานกฎหมายสิ่งแวดล้อม CEMDA ให้สัมภาษณ์แก่รอยเตอร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมมากน้อยแค่ไหน
องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมกว่า 20 แห่ง ซึ่งรวมถึง CEMDA และกลุ่มกรีนพีซ (Greenpeace) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้ Pemex “เตรียมจัดทำผลการศึกษาชี้แจงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โดยละเอียด” รวมถึงมีมาตรการเยียวยาที่เหมาะสม ในขณะที่ทาง Pemex เองรับปากเพียงว่าจะสืบสวนหาสาเหตุการรั่วของท่อก๊าซเท่านั้น
ที่มา : รอยเตอร์