หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาแห่งอียู ระบุในวันอาทิตย์(13มิ.ย.) เน้นย้ำว่าวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีประโยชน์เหนือกว่าความเสี่ยง สำหรับทุกกลุ่มอายุและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลา สแตมปาของอิตาลี รายงานอ้าง มาร์โก คาวาเลรี หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ขององค์การยาแห่งยุโรป(EMA) แนะนำว่าประเทศต่างๆควรหลีกเลี่ยงฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้กับกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มเติมจากกลุ่มคนหนุ่มสาว หากว่ามีวัคซีนทางเลือก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก
อย่างไรก็ตามล่าสุด คาวาเลรี ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า "โชคไม่ดีที่คำพูดของผมไม่ถูกตีความอย่างถูกต้องในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้กับลา สแตมปา" เขากล่าว "วัคซีนแอสตร้าเซเนก้ายังคงมีผลได้เมื่อเทียบกับความเสี่ยงไปในทางบวก ในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนสูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป"
จุดยืนของ EMA คือวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีความปลอดภัยและสามารถใช้กับทุกกลุ่มอายุเกิน 18 ปี อย่างไรก็ตามหลายชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปหยุดฉีดวัคซีนตัวนี้ให้กับประชาชนในบางกลุ่มอายุ ปกติแล้วมักไม่ให้ใช้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 50-65 ปี และมุ่งจำกัดให้ใช้เฉพาะกับคนสูงวัย สืบเนื่องจากพบเคสผู้ป่วยลิ่มเลือดอุตันซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก โดยส่วนใหญ่พบในกลุ่มคนหนุ่มสาว
ในช่วงเย็นวันอาทิตย์(13มิ.ย.) ลา สแตมปา ปรับแก้พาดหัวข่าวในรายงานข่าวทางออนไลน์และเพิ่มเติมคำชี้แจงของคาวาเลรีเข้าไปในข่าว อย่างไรก็ตาม มัสซิโม จิอันนินี บรรณาธิการของ ลา สแตมปา บอกว่าเขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ รัฐบาลอิตาลีเผยว่าจะจำกัดให้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเฉพาะกับคนอายุเกิน 60 ปี หลังวัยรุ่นรายหนึ่งที่ได้รับวัคซีนตัวดังกล่าว เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
โรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์(13มิ.ย.) ว่าอิตาลีจะเดินหน้าใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าต่อไปกับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ในนั้นรวมถึงคนที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนโดสแรก
เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรป อิตาลีระงับฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าช่วงสั้นๆในเดือนมีนาคม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก กระนั้นพวกเขากลับมาใช้วัคซีนตัวดังกล่าวอีกครั้งในเดือนต่อมา ภายในคำแนะนำว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะใช้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลังจากองค์การยาแห่งยุโรปเน้นย้ำว่ามันมีประโยชน์เหนือกว่าความเสี่ยง
(ที่มา:รอยเตอร์ส)