รัฐบาลฮ่องกงออกคำสั่งเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายว่ามีเนื้อหากระทบต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ในความเคลื่อนไหวล่าสุดซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามปิดกั้นเสรีภาพทางการเมืองและการแสดงออกผ่านงานศิลปะ
จีนเริ่มบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่ออกมาจัดการชุมนุมประท้วงใหญ่เมื่อปี 2019
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ รวมไปถึงแคมเปญของรัฐที่รณรงค์ให้ “คนรักชาติเป็นผู้ปกครองฮ่องกง” ทำให้นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจำนวนมากถูกจับกุมและดำเนินคดี และวงการ “ภาพยนตร์” กำลังตกเป็นเป้าหมายล่าสุด
รัฐบาลฮ่องกงแถลงวันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า กฎหมายว่าด้วยการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ (Film Censorship Ordinance) ได้ถูกขยายความให้ครอบคลุมถึง “การกระทำหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เข้าข่ายล่วงละเมิดหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ”
“หากเรามองในภาพรวมว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่งมีผลกระทบต่อผู้ชมอย่างไรบ้าง คณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ก็ควรจะทำหน้าที่ป้องกันและปิดกั้นการกระทำหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และถือเป็นหน้าที่โดยสามัญของประชาชนชาวฮ่องกงที่จะต้องปกป้องอธิปไตย ความเป็นปึกแผ่น และบูรณภาพแห่งดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน” แนวปฏิบัติใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที ระบุ
ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทำให้แต่ละปีมีภาพยนตร์หรือสารคดีจากตะวันตกเพียงไม่กี่เรื่องที่สามารถเข้าฉายในเชิงพาณิชย์ได้
อย่างไรก็ดี โดยปกติแล้วคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ของฮ่องกงจะไม่ได้ใช้เกณฑ์ที่เข้มงวดเท่ากับจีน
เกาะฮ่องกงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มากมาย อีกทั้งอุตสาหกรรมหนังฮ่องกงเองก็ได้ชื่อว่ามีคุณภาพระดับเวิลด์คลาส และได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาที่ภาพยนตร์จากจีนแผ่นดินใหญ่และเกาหลีใต้เริ่มเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดในภูมิภาค
ที่มา: เอเอฟพี