รัฐบาลเดนมาร์กในวันจันทร์(31พ.ค.) เรียกร้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุของประเทศ ให้ทบทวนการตัดสินใจไม่ใช้วัคซีนต้านโควิด-19ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและแอสตร้าเซนเนก้า หลังประสบปัญหาในการขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
เดนมาร์กหยุดใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเคสลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงที่เกิดขึ้นน้อยมากในผู้รับวัคซีนบางราย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เดนมาร์กกำลังเผชิญกับปัญหาความยุ่งยากเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนแผนฉีดวัคซีนแก่ทุกคนในเดือนกันยายน
ณ ตอนนี้ คาดหมายว่าปัญหาล่าช้าน่าจะกินเวลาราวๆ 2 สัปดาห์
แมกนัส ฮิวนิกเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐว่า ด้วยบริบทนี้รัฐบาลกำลังร้องขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพิจารณาทบทวนใหม่
"ตอนนี้เราถลำเข้าสู่การแพร่ระบาดมากกว่าเดิม วัคซีนจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า ตอนนี้ถูกใช้ในยุโรปมาแล้วระยะหนึ่ง" ฮิวนิกเก้กล่าว "มีข้อมูลมากขึ้นบนพื้นฐานทั่วโลกสำหรับประเมินประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของวัคซีน" เขากล่าว
เจ้าหน้าที่เดนมาร์กถอนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าออกจากโครงการฉีดวัคซีนของประเทศในช่วงกลางเดือนเมษายน และหยุดใช้งานวัคซีนของจอห์สันแอนด์จอห์นวันในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ไม่ใช่แค่ความกังวลด้านสุขภาพ แต่การระงับใช้วัคซีนทั้ง 2 ตัวของเดนมาร์กยังมีเหตุผลจากข้อเท็จจริงที่ว่าโรคระบาดใหญ่ดูเหมือนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีอุปทานวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติใช้อย่างเพียงพอ นั่นก็คือวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นา
เดนมาร์กเป็นชาติแรกของยุโรปที่หยุดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในโครงการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ แต่ในวันที่ 20 พฤษภาคม พวกเขาผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆสำหรับทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีนทั้งสองตัว
(ที่มา:รอยเตอร์ส/เอเอฟพี)