“พ่อไม่เหลือใครแล้วในโลกนี้ นอกจากเจ้า” โมฮัมหมัด อัล-ฮาดิดี ร่ำไห้พลางเห่กล่อมทารกน้อยผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปฏิบัติการของอิสราเอลที่โจมตีทางอากาศถล่มยิงอาคารและบ้านเรือนประชาชนในเขตกาซา เมื่อรุ่งสางของวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2021
หนูน้อยนาม โอมาร์ เด็กชายทารกวัยเพียง 5 เดือน เป็นชีวิตเดียวที่รอดพ้นความตายภายใต้ซากปรักหักพังของบ้านลุง ใกล้แคมป์ผู้ลี้ภัยชาตี (Shati) นอกเมืองกาซาซิตี ขณะที่คุณแม่และพี่ชายทั้ง 4 คน เสียชีวิตทั้งหมด พร้อมกับญาติอีกไม่น้อยกว่า 5 ราย
หลังการโจมตีทางอากาศยุติลงในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดเข้าช่วยเหลือ
ในท่ามกลางกองอิฐและคอนกรีตเกลื่อนกล่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบตุ๊กตา ของเล่น กระดานเกมโมโนโปลี และอาหารที่เตรียมไว้เลี้ยงฉลองกัน ปรากฏแทรกเป็นหย่อมๆ แล้วพวกเขาก็พบร่างไร้ลมหายใจของคุณแม่และลูกๆ ถูกกลบทับใต้ซากที่เหลืออยู่ของบ้าน เหนืออื่นใด คือการพบน้องโอมาร์ ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในอ้อมแขนปกป้องของคุณแม่ ผู้ใช้ร่างกายกางกั้นอันตรายให้แก่ทารกตัวน้อย โดยตนเองซึ่งเป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นเหยื่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิสราเอลในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุด
ขาเล็กๆ ข้างขวาของน้องโอมาร์อยู่ในสภาพแตกหักถึง 3 จุด และบนใบหน้ามีบาดแผลหลายแห่ง
ร่างของพี่ๆ โอมาร์ทั้ง 4 คนและญาติอีก 5 คนแหลกลาญในบ้านที่ถูกถล่มทลายด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่เครื่องบินไอพ่นติดขีปนาวุธ ผู้เห็นเหตุการณ์ชื่อ อัลเมคดาด จามีล ซึ่งอาศัยอยู่ในแคมป์ผู้ลี้ภัย เล่าว่าได้เห็นบ้านหลังนี้ถูกขีปนาวุธจากเครื่องบินขับไล่ Jet Fighter พุ่งใส่อย่างน้อย 5 ลูก เว็บไซต์ข่าวเดอะซันรายงานอย่างนั้น
เด็กแต่ละคนยังอายุน้อย ได้แก่ ซูไฮบ วัย 13 ปี ญาห์ญา 11 ปี อับเดอร์ราห์มาน 8 ปี และโอซามา 6 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างไร้ลมหายใจของเด็กๆ อยู่ใกล้กับศพของคุณแม่มาฮา อาบู ฮัททับ ซึ่งเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น
“ทุกคนกลับสู่อ้อมกอดของอัลเลาะห์แล้ว เราไม่อยากอยู่ในโลกนี้นานนัก” คุณพ่อทุกข์ตรมจากความสูญเสีย พูดพลางสะอื้นระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกาซา
“ลูกกับพ่อ เราจะได้พบกับแม่และทุกคนในเร็ววันนี้ ขอพระเมตตาแห่งอัลเลาะห์ อย่าให้ต้องรอนานนัก” โมฮัมหมัด อัล-ฮาดิดี พูดกับน้องโอมาร์ซึ่งหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดขณะนั่งข้างเตียงโรงพยาบาล และบรรจงจูบแก้มลูกน้อย
ขาขวาของโอมาร์มีเฝือกหุ้มเต็มความยาวตั้งแต่ต้นขาจรดปลายนิ้วเท้า
นอกจากนั้น บริเวณใต้โค้งคิ้วนั้น เปลือกตาของโอมาร์ช้ำแรงจนบวมและเขียวคล้ำ ขณะที่ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยบาดแผล
คุณแม่ให้ลูกแต่งตัวสวยงาม พากันไปเยี่ยมคุณลุง และขอค้างหนึ่งคืน
ปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศที่อิสราเอลระดมทำลายอาคารบ้านเรือนในเขตกาซาเมื่อรุ่งสางของวันเสาร์นั้น อยู่ในช่วงฉลองละศีลอดเดือนเราะมะฎอน คือหนึ่งวันหลังวันอีดเล็ก 14 พฤษภาคม 2021 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับครอบครัวมุสลิม
ในวันศุกร์ คุณแม่พาโอมาร์และพี่ๆ ทุกคนไปเยี่ยมบ้านญาติๆ นอกเมืองกาซาซิตี ซึ่งอยู่ใกล้แคมป์ผู้ลี้ภัยชาตี
“เด็กๆ แต่งชุดอีดน่ารักกันทุกคน และก็หอบหิ้วของเล่นติดมือไปด้วย ภรรยาผมพาลูกไปฉลองวันอีดที่บ้านพี่ชาย” ฮาดิดีเล่าอย่างนั้น
“ตกเย็น ลูกๆ โทรศัพท์มาขอค้างบ้านลุงกันคืนนึง ผมก็อนุญาต” ฮาดิดีเล่าและหยุดกลั้นสะอื้นด้วยระลึกถึงว่านั่นเป็นจุดเปลี่ยนสู่การที่ทุกคนต้องเผชิญกับคืนแห่งหายนะ
“ผมหลับอยู่ที่บ้านคนเดียว... แล้วสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงระเบิด” ฮาดิดีกล่าว
สักพักหนึ่ง เพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าขีปนาวุธอิสราเอลโดนบ้านพี่เขยเข้าอย่างจัง
“ผมรีบดิ่งไปเร็วที่สุดที่จะทำได้ แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่าบ้านทั้งหลังพังทลายไม่เหลือชิ้นดี” ฮาดิดีเล่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันลำเลียงร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากซากปรักหักพัง โดยที่ว่าพี่สะใภ้ของฮาดิดีกับลูกสี่คนล้วนแต่เสียชีวิต
“อัลเลาะห์ทรงเตรียมทุกสิ่งให้เรา”
ฮาดิดีแตะแก้มลูกชายตัวน้อยอย่างเบามือ
“ลูกชายผมทั้งสี่คนโตด้วยนมแม่กันทุกคน มีแต่โอมาร์นี่ละครับที่ไม่ยอมดูดนมแม่ตั้งแต่วันแรกเลย” ฮาดิดีเล่าในอารมณ์โศกเศร้า
“อัลเลาะห์ทรงเตรียมทุกสิ่งให้เรา และเราไม่ทราบล่วงหน้า”
อิสราเอลโจมตีทางอากาศเข้าใส่เขตกาซาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2021 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 200 ราย โดยเป็นเด็กมากถึง 59 ราย
ด้านอิสราเอลถูกจรวดของกลุ่มติดอาวุธฮามาสโต้ตอบ แต่อิสราเอลมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome จึงมีผู้เสียชีวิต 10 ราย
ฮาดิดีเชื่อว่าอิสราเอลเจาะจงเล่นงานเด็ก
“เด็กๆ ไปทำอะไรให้พวกนั้นถึงต้องถูกบอมบ์โดยไม่มีการแจ้งเตือนให้มีโอกาสหลบหนีไปยังที่หลบภัยได้ทัน” ฮาดิดีกล่าวทั้งน้ำตา
อิสราเอลอ้างว่าเป้าหมายการโจมตีมุ่งเป้าไปที่กองกำลังติดอาวุธต่างๆ ซึ่งรวมถึงกลุ่มฮามาสที่ยึดครองฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนพากันประณามการโจมตีของอิสราเอลซึ่งสังหารสตรีและเด็กไปจำนวนมากภายในดินแดนกาซาซึ่งมีผู้อยู่อาศัยราว 2 ล้านคน
แม้การโจมตีทางอากาศยังมีมาเรื่อยๆ แต่ฮาดิดียืนยันว่าจะยังไม่กลับบ้านจนกว่าคุณหมอจะยืนยันว่าน้องโอมาร์แข็งแรงปลอดภัย
“ผมจะดูแลลูก จะเลี้ยงให้เขาเติบโตขึ้นด้วยสองมือของผมเองครับ” คุณพ่อฮาดิดีกล่าวน้ำตานองหน้า
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอเอฟพี เดอะซันดอทคอม เดอะการ์เดียนดอทคอม)