เดเร็ก ชอวิน อดีตตำรวจมินนีอาโปลิส ถูกพิพากษาเมื่อวันอังคาร (20 เม.ย.) ว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมระหว่างการจับกุมจอร์จ ฟลอยด์ จุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์การเหยียดผิวของสหรัฐฯ และทำให้เกิดกระแสก่นด่าประณามแนวทางปฏิบัติต่อคนอเมริกันผิวดำของเจ้าหน้าที่
คณะลูกขุน 12 คนพบว่า ชอวิน มีความผิดทุกข้อกล่าวหา ในนั้นรวมถึงฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและฆ่าคนตายโดยประมาท หลังจากพิจารณาคำให้การของพยาน 45 ปาก เป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ ในนั้นรวมถึงผู้สัญจรผ่านไปมา บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ทั้งนี้ การปรึกษาหารือของคณะลูกขุนเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ (19 เม.ย.) และใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง
ในเหตุเผชิญหน้าที่ปรากฏในวิดีโอ พบเห็น ชอวิน ตำรวจผิวขาว นั่งเอาเข่ากดทับคอของฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปี เป็นเวลากว่า 9 นาที เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2020 โดย ชอวิน และนายตำรวจอื่นๆ อีก 3 นาย เข้าจับกุม ฟลอยด์ ตามคำกล่าวหาใช้ธนบัตรปลอม 20 ดอลลาร์ซื้อบุหรี่ที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง
ชอวิน ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วหลังจากผู้พิพากษาสั่งถอนประกันเขาหลังอ่านคำพิพากษา จากนั้นเขาถูกใส่กุญแจมือพาตัวออกจากห้องพิจารณาคดี และนำตัวไปคุมขังที่สำนักงานนายอำเภอเฮนเนพิน เคาน์ตี
บริเวณด้านนอกศาล ผู้คนหลายร้อยคนส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีหลังมีการแถลงคำตัดสินของคณะลูกขุน มีการบีบแตรรถยนต์ ร้องตะโกน “จอร์จ ฟลอยด์” และ “ทั้ง 3 กระทง” ดังสนั่น ส่วนที่จัตุรัสจอร์จ ฟลอยด์ ในมินนีอาโปลิส สี่แยกที่ฟลอยด์ถูกฆ่า ซึ่งเวลานี้ได้มีการตั้งชื่อตามเขาและกลายเป็นจุดชุมนุมหลักของพวกผู้ประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางสีผิว ผู้คนจำนวนมากพากันร้องตะโกน ปรบมือด้วยความยินดี และบางส่วนโยนธนบัตรดอลลาร์ขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเฉลิมฉลอง
“ความยุติธรรมสำหรับอเมริกันผิวดำ คือความยุติธรรมสำหรับอเมริกันทุกคน” เบนจามิน ครัมป์ ทนายความของครอบครัวฟลอยด์ระบุในถ้อยแถลง “คดีนี้คือจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์อเมริกา สำหรับความรับผิดชอบของผู้บังคับใช้กฎหมายและเป็นการส่งสารที่ชัดเจนที่เราหวังทุกๆ เมืองและทุกๆ รัฐจะได้ยิน”
ในขณะที่ระบบยุติธรรมทางอาญาและคณะลูกขุนของสหรัฐฯ มีความล้าหลังมาอย่างยาวนานและให้การปกป้องทางกฎหมายบางส่วนแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงสยบพลเรือน แต่คณะลูกขุนในคดีนี้พบว่าพฤติกรรมของ ชอวิน นั้นล้ำเส้นและใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
ภายใต้กรอบการลงโทษของมินนิโซตา ชอวิน ต้องเผชิญโทษจำคุก 12 ปี จากการถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม เนื่องจากเป็นการทำผิดทางอาญาครั้งแรก อย่างไรก็ตาม คณะอัยการกำลังหาทางเพิ่มโทษจำคุกเป็นสูงสุด 40 ปี หากว่า ปีเตอร์ คาฮิลล์ ผู้พิพากษาศาลแขวงเฮนเนพิน เคาน์ตี ประธานการพิจารณาคดี สรุปว่ามีเหตุที่ทำให้ความผิดหนักขึ้น
กระนั้น ในมินนิโซตา โดยทั่วไปแล้วผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญามักได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำภายใต้การสอดส่องดูแล (Supervised release) หลังชดใช้โทษไปแล้ว 2 ใน 3 ในขณะที่ ชอวิน เองก็ไม่เคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญาใดๆ มาก่อน
จากบันทึกของศาลพบว่า คณะลูกขุนในคดีนี้ประกอบด้วย ผู้หญิงผิวขาว 4 คน ผู้ชายผิวขาว 2 คน ผู้ชายผิวสี 3 คน ผู้หญิงผิวสี 1 คน และผู้หญิงหลายเชื้อชาติ 2 คน
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (20 เม.ย.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่าเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับครอบครัวของจอร์จ ฟลอยด์ “พวกเขาเป็นครอบครัวที่ดี พวกเขาเรียกร้องขอความสันติและความสงบ ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ผมภาวนาให้คำพิพากษาเป็นคำตัดสินที่ถูกต้อง ซึ่งมันท่วมท้นในมุมมองของผม แต่ผมไม่ขอพูดจนกว่าคณะลูกขุนจะมีคำตัดสิน” ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ประเด็นสีผิวและการบังคับใช้กฎหมายเป็นที่ถกเถียงมาช้านานในสหรัฐฯ และมันถูกตอกย้ำโดยเหตุความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหลายต่อหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจผิวขาวและคนผิวสีในหลายเมืองของอเมริกาช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การเสียชีวิตของฟลอยด์ โหมกระพือการประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวและพฤติกรรมโหดร้ายป่าเถื่อนของตำรวจในหลายเมืองของสหรัฐฯ และทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว
กรมตำรวจมินนิอาโปลิส ไล่ออก ชอวิน และเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ อีก 3 นาย หลังการเสียชีวิตของฟลอยด์ โดยนายตำรวจรายอื่นๆ ทั้ง 3 มีกำหนดถูกพิจารณาคดีหลังจากนี้ในปีนี้ ตามข้อกล่าวหามีส่วยช่วยและส่งเสริมการตายของฟลอยด์
(ที่มา : รอยเตอร์)
