ราคาน้ำมันขยับลง 4 วันติดในวันพุธ (17 มี.ค.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่วนวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างรวดเร็ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายยน ลดลง 20 เซ็นต์ ปิดที่ 64.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 39 เซ็นต์ ปิดที่ 68.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวในแดนลบ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (17 มี.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นถึง 2.4 ล้านบาร์เรล
สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังปฏิบัติการกลั่นทางภาคใต้ของประเทศได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวสุดขั้วเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่บริษัทพลังงานทั้งหลายกลับมาเดินเครื่องอย่างช้าๆ และคาดหมายว่าต้องใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์ กว่าจะคืนสู่ความสมดุล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแข็งแกร่งในวันพุธ (17 มี.ค.) เอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ประมาณการว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤตโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และบอกว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ศูนย์ต่อไป
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 189.42 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,015.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.41 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,974.12 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 53.64 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,525.20 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเหนือ 33,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังในถ้อยแถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดหมายว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วและภาวะเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 เบาบางลง พร้อมเน้นย้ำคำสัญญาคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์ต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า
เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2021 และ 2022 สู่ระดับ 6.5% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่ปรับลดการขยายตัวของปี 2566 สู่ระดับ 2.2% และเฟดได้คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวในระยะยาวที่ระดับ 1.8%
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ วงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เฟดยังได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2021-2023 อยู่ที่ระดับ 0.13% ทั้ง 3 ปี และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวที่ระดับ 2.5%
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินจนกว่าจะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และการมีเสถียรภาพด้านราคา
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (17 มี.ค.) ปรับลด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,727.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนพุ่งทะยานในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังการตัดสินใจของเฟด
(ที่มา : รอยเตอร์)
