ราคาน้ำมันปรับขึ้นมากกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) พบสต๊อกเบนซินลดลงอย่างมาก และดอลลาร์อ่อนค่าลง ปัจจัยหลังนี้ผลักทองคำปิดบวก 3 วันติด ขณะที่วอลล์สตรีทพุ่งแรงจากข้อมูลภาคแรงงาน และไบเดน ลงนามในแพกเกจมหาศาลเยียวยาผลกระทบโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า คลังสำรองน้ำมันเบนซินที่ลดลงอย่างมากของสหรัฐฯ คือ ปัจจัยหนุนสำคัญของราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยว่า สต๊อกเบนซินในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 มีนาคม ลดลง 11.9 ล้านบาร์เรล เหลือ 231.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราวๆ 3.5 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งคลังน้ำมันดิบสำรองในสัปดาห์เดียวกัน เพิ่มขึ้นถึง 13.8 ล้านบาร์เรล เป็น 498.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 816,000 บาร์เรล
นอกจากนี้แล้ว ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งปัจจัยนี้เองที่ผลักราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ปิดบวก 3 วันติด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,722.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) เอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คลายกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ พร้อมได้แรงหนุนจากผู้เข้ารับสวัสดิการว่างงานลดลง และคาดหมายว่า ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ที่ประธานาธิบดีไบเดนลงนามเรียบร้อยแล้ว จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 188.57 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,485.59 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 40.53 จุด (1.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,939.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 329.84 จุด (2.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,398.67 จุด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ บังคับใช้เป็นกฎหมายในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ประจวบเหมาะพอดีกับวาระครบรอบ 1 ปี ที่อเมริกาล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของอเมริกันชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ซึ่งลดลงสู่ระดับ 712,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ราย ขณะที่วัคซีนเปิดทางให้ภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
(ที่มา : รอยเตอร์)