ราคาน้ำมันในวันพุธ (24 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน ข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯพบสต๊อกปิโตรเลียมลดลงอย่างมาก หลังสภาพอากาศหนาวเหน็บสุดขั้วส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก เฟดส่งสัญญาคงดอกเบี้ยอีกนาน ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งพุ่งขึ้นไปถึง 63.37 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2020 ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งพุ่งขึ้นไปแตะ 67.30 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2020 เช่นกัน
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลในวันพุธ (24 ก.พ.) ระบุกำลังผลิตน้ำมันดิบของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงมากกว่า 10% หรือ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ระหว่างพายุฤดูหนาวซัดถล่มเทกซัส ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่การกลั่นนั้นลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 หลังสภาพอากาศหนาวสุดขั้วก่อไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งแรงในวันพุธ (24 ก.พ.) นักลงทุนลดการเทขายหุ้นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และหมุนวนเข้าหาหุ้นวัฏจักร (กลุ่มที่มักจะมีการปรับตัวขึ้น-ลงตามแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจ) หลังความเห็น เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 424.51 จุด (1.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,961.86 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 44.06 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,925.43 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 132.77 จุด (0.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,597.97 จุด
พาวเวลล์ กล่าวในวันพุธ (24 ก.พ.) อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปีกว่าที่อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับเป้าหมายของเฟด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกนาน
“เฟดเคยระบุว่า จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งเราเชื่อว่าเราสามารถทำได้ โดยอาจใช้เวลามากกว่า 3 ปี” พาวเวล กล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ พาวเวลล์ ยังระบุว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องเห็นความคืบหน้าทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริง ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน มากกว่าที่จะอิงจากคาดการณ์ความคืบหน้า
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (24 ก.พ.) ปิดลบ 2 วันติด ขยับลงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนผลักนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,797.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา: รอยเตอร์)