ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร (23 ก.พ.) หลังพุ่งทะยานหนึ่งวันก่อนหน้านี้ กำลังผลิตสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ หลังสภาพอากาศหนาวเหน็บในเทกซัส กระทบกำลังผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนวอลล์สตรีทแกว่งตัวปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวฉุดทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 18 เซ็นต์ ปิดที่ 61.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 13 เซ็นต์ ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กำลังผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สืบเนื่องจากสภาพอากาศหนาวสุดขั้วปกคลุมเทกซัส และรัฐอื่นๆ ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน และคาดหมายว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์กว่ากำลังผลิตจะฟื้นคืนสู่ภาวปกติ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (23 ก.พ.) แกว่งตัวสู่แดนบวกในช่วงท้ายของการซื้อขาย เกิดการชักเย่อกันระหว่างหุ้นที่เติบโตท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ กับบรรดาหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 15.66 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,537.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.87 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,881.37 จุด แนสแดค ลดลง 67.85 จุด (0.5 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,465.20 จุด
เหล่าหุ้นที่เติบโตท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์เป็นตัวถ่วงวอลล์สตรีทเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่ดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 จะแกว่งตัวปิดบวกในช่วงท้ายของการซื้อขาย ได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของโครงการฉีดวัคซีนที่จะช่วยยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ทางเศรษฐกิจ
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปัดเป่าความกังวลที่ว่าความเคลื่อนไหวสนับสนุนเศรษฐกิจของเฟดจะเพิ่มความเสี่ยงเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ยืนยันจะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะ
ความเห็นระหว่างให้ปากคำต่อสภาคองเกรสของพาวเวลล์ ผลักดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ฉุดราคาทองคำในวันอังคาร (23 ก.พ) ปิดลบ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,805.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)