ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวันอังคาร (2 มี.ค.) เปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะมีวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพียงพอสำหรับฉีดให้แก่ประชากรอเมริกาวัยผู้ใหญ่ทุกคนในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม
“เราอยู่บนเส้นทางของการมีวัคซีนเพียงพอสำหรับอเมริกันชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม” ไบเดนกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่าอาจต้องรอจนถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ถึงจะสามารถระดมวัคซีนได้มากมายขนาดนั้น
“มันมีความก้าวหน้า มีความก้าวหน้าที่สำคัญ แต่ยังมีเสบียงวัคซีนไม่มากพอ” ไบเดนกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่ายังมีงานรออยู่เบื้องหน้าในการบริหารจัดการวัคซีน ครั้นได้รับวัคซีนมาแล้ว “เราต้องการคนฉีดวัคซีน คนที่มีหน้าที่ฉีดวัคซีนสู่แขนของประชาชน แขนของอเมริกันชนหลายล้านคน”
“มันคือข่าวดีมาก แต่ยังต้องระมัดระวัง มันยังไม่ถึงจุดจบ” ไบเดนกล่าว
คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแถลงข่าวสั้นๆ ที่เขายืนยันว่าบรรลุข้อตกลงกับ เมอร์ค บริษัทยายักษ์ใหญ่ ในการผลิควัคซีนโควิด-19 โดสเดียวของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บริษัทคู่แข่ง ในความพยายามเพิ่มอุปทานวัคซีนทั่วประเทศ
“นี่คือรูปแบบความร่วมมือระหว่างบริษัทต่างๆ ที่เราเคยพบเห็นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2” ไบเดนระบุ พร้อมบอกว่าเวลานี้การผลิตวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ตามโรงงานต่างๆ “จะเริ่มปฏิบัติการ 24/7(ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง)”
วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นวัคซีนตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันนั้นต่างออกไปจากวัคซีน 2 โดสของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เนื่องจากมันใช้เพียงแค่โดสเดียวและสามารถจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไป มอบความได้เปรียบทั้งด้านโลจิสติกส์และในทางปฏิบัติ
จนถึงตอนนี้ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันบอกว่าทางบริษัทมีเป้าหมายส่งมอบวัคซีน 100 ล้านโดสแก่สหรัฐฯ ในช่วงเดือนมิถุนายน
ความคืบหน้าล่าสุดด้านวัคซีน มีขึ้นในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันโควิด-19 ในสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 48,092 คนในวันจันทร์ (1 มี.ค.) ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 28,700,000 คน ในนั้นเสียชีวิตราว 516,000 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
มีประมาณ 10 กว่ารัฐของสหรัฐฯ ที่รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อใหม่แค่ราวๆ 100 เคสต่อประชากร 1 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในแถบตะวันตกและมิดเวสต์ โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 3,516 คน ไม่ถึง 1 ใน 10 จากระดับพีกสุดช่วงฤดูหนาว ขณะที่มิสซูรีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 192 คน
(ที่มา : เอเอฟพี / บลูมเบิร์ก)