ภรรยาของโจอาควิน “เอล ชาโป” กุซมัน อดีตหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติด “ซินาลัว” ของเม็กซิโก ถูกรวบตัวในวันจันทร์ (22 ก.พ.) ตามคำกล่าวหาว่าเธอเกี่ยวข้องการขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จากการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
เอ็มมา โคโรเนล อิสปูโร วัย 31 ปี ซึ่งเข้าร่วมรับฟังการพิจารณคดีสามีของเธอเป็นประจำเมื่อ 2 ปีก่อน ถูกจับกุมที่สนามบินนานาชาติดัลเลส ทางเหนือของเวอร์จิเนีย และคาดหมายว่าจะถูกนำตัวขึ้นศาลกลางในวอชิงตันในวันอังคาร (23 ก.พ.)
เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าทนายความของโคโรเนลนั้นเป็นใคร และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทำไม โคโรเนล ซึ่งเป็นพลเมืองสองสัญชาติ สหรัฐฯ-เม็กซิโก ถึงมาอยู่ในพื้นที่วอชิงตัน
ปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้มีขึ้นไม่ถึง 2 ปี หลัง กุซมัน ซึ่งเวลานี้อายุ 63 ปี ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติดหลายตันเข้ามายังสหรัฐฯ ในฐานะหัวหน้าแก๊งซินาลัว โดยคณะอัยการระบุว่าเขาสะสมอำนาจผ่านการฆาตกรรมและทำสงครามกับบรรดาแก๊งคู่อริ
กุซมัน ถูกตัดสินในเดือนกรกฎาคม 2019 จำคุกตลอดชีวิตบวก 30 ปี ซึ่งผู้พิพากษาระบุเป็นผลลัพธ์จากพฤติกรรมปีศาจของกุซมัน จากนั้นเขาถูกส่งตัวไปยังเอดีเอ็กซ์ ฟลอเรนซ์ (ADX Florence) ในโคโลราโด เรือนจำความมั่นคงสูงสุด “Supermax” ซึ่งมีมาตรการคุ้มกันรักษาความปลอดภัยแน่นหนาที่สุดในประเทศ
โคโรเนล ถูกตั้งข้อหาในคำฟ้อง 1 กระทง นั่นคือสมคบคิดจ่ายเฮโรอีน โคเคน กัญชา และยาบ้า เพื่อนำเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
อัยการระบุว่าา โคโรเนลยังสมคบคิดช่วยสามีของเธอหลบหนีออกจากเรือนจำอัลติพลาโนในเม็กซิโก ในเดือนกรกฎาคม 2015 โดยคราวนั้น กุซมัน ขุดอุโมงค์จากห้องขังเป็นระยะทางกว่า 1 ไมล์ (ราว 1.6 กิโลเมตร) และเริ่มวางแผนหลบหนีหนที่ 2 หลังเขาถูกเจ้าหน้าที่เม็กซิโกจับตัวได้อีกรอบในเดือนมกราคม 2016
ความพยายามต่อสู้กับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดของสหรัฐฯ และเม็กซิโก เริ่มเข้าสู่ภาวะตึงเครียด หลัง ซัลวาดอร์ เซียนฟวยกอส อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเม็กซิโก ถูกจับในสหรัฐฯ และโดนกระทรวงยุติธรรมอเมริกาตั้งข้อหาพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดในเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ถอนคดีดังกล่าวอย่างไม่คาดฝันในเดือนต่อมา และปล่อยตัว เซียนฟวยกอส กลับสู่เม็กซิโก ในความพยายามรื้อฟื้นความไว้วางใจระหว่างกันในความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงของสองประเทศ
เซียนฟวยกอส พ้นจากข้อกล่าวหาในอีก 2 เดือนต่อมา หลังจากเม็กซิโกถอนฟ้องคดีของพวกเขาเช่นกัน
โธมัส กูเอวารา นักสืบในประเด็นความมั่นคงของมหาวิทยาลัยอิสระซินาลัว ระบุว่า การจับกุมโคโรเนลอาจเป็นหนึ่งของกลยุทธ์เพิ่มแรงกดดัน กระตุ้นกุซมันยอมให้ความร่วมมือ
เจ้าหน้าที่เม็กซิโกที่ใกล้ชิดกับคดีของโคโรเนลซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่า การจับกุมเธอดูเหมือนจะเป็นตัดสินใจของสหรัฐฯ ฝ่ายเดียว เนื่องจาก โคโรเนล ไม่ได้เป็นที่ต้องการตัวในเม็กซิโก
(ที่มา : รอยเตอร์)