เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ระบุวานนี้ (18 ก.พ.) ว่าโรงไฟฟ้าทุกแห่งในรัฐสามารถกลับมาจ่ายไฟได้ตามปกติแล้ว ทว่ายังคงมีบ้านเรือนกว่า 3 แสนหลังที่เผชิญปัญหาไฟดับเนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นหรือข้อจำกัดอื่นๆ หลังเกิดพายุฤดูหนาวครั้งรุนแรงที่ทำให้อุณหภูมิลดต่ำถึงขั้นติดลบ
ขณะเดียวกัน ผู้นำคนอื่นๆ ในรัฐเทกซัสก็ออกมาเตือนว่า ระบบจ่ายไฟฟ้าของรัฐแห่งนี้จะยังอยู่ในสภาวะ “เปราะบาง” อย่างยิ่งต่อไปอีกอย่างน้อย 2-3 วัน เนื่องจากสภาพอากาศจะยังหนาวจัดต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้
จำนวนบ้านเรือนที่ปราศจากไฟฟ้าใช้ลดลงจาก 2.7 ล้านหลังในวันพุธ (17) เหลือเพียง 325,000 หลังเมื่อวานนี้ ขณะที่ชาวเทกซัสมากกว่า 13 ล้านคนยังคงเผชิญปัญหาน้ำประปาไม่ไหล
สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ล้มเหลวหลังพายุฤดูหนาวซัดกระหน่ำรัฐตอนใต้แห่งนี้เมื่อ 4 วันก่อน ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้นำรัฐ ซึ่งรวมถึงตัว แอบบ็อตต์ เอง ถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
แอบบ็อตต์ ยืนยันว่าตนได้ขอให้สมาชิกสภานิติบัญญัติเร่งออกกฎหมายบังคับให้โรงไฟฟ้าทุกแห่งของเทกซัสต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถทนอากาศหนาวได้ เหมือนกับในรัฐอื่นๆ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นกว่า เพื่อไม่ให้วิกฤตการณ์ไฟดับเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวเทกซัสในสัปดาห์นี้เป็นอะไรที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง และมันจะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก” แอบบ็อตต์ ระบุในงานแถลงข่าว พร้อมทั้งตำหนิบริษัทไม่แสวงผลกำไร Electric Reliability Council of Texas (ERCOT) ซึ่งรับผิดชอบดูแลระบบไฟฟ้าถึง 90% ในรัฐแห่งนี้ เนื่องจากทางบริษัทได้แจ้งยืนยันกับเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเกิดพายุหิมะว่า ระบบจ่ายไฟได้รับการปรับปรุงให้พร้อมรับสภาพอากาศหนาวแล้ว
ไฟฟ้าดับยังทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่มีน้ำประปาใช้ตามไปด้วย และส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลต่างๆ ที่ต้องดูแลรักษาคนไข้ในช่วงโควิด-19 ระบาด ขณะที่ชุมชนบางแห่งถูกตัดขาดเนื่องจากถนนยังถูกหิมะปกคลุมจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้
คณะกรรมการคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งเทกซัส (Texas Commission on Environmental Quality) แถลงข้อมูลเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (18) ว่า ยังมีโรงประปา 797 แห่งที่ประสบปัญหาเรื่องการจ่ายน้ำ ซึ่งกระทบต่อผู้บริโภคราว 13.2 ล้านคน โดยทางการได้ออกคำเตือนให้ประชาชนต้มน้ำประปาก่อนที่จะนำมาดื่ม
สำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินกลางแห่งสหรัฐฯ (Emergency Management Agency – FEMA) ระบุว่า อุณหภูมิที่หนาวเยือกแข็งเป็นประวัติการณ์นี้ยังทำให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากศูนย์ฉีดวัคซีนกว่า 2,000 แห่งยังคงเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ
ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตจากพายุฤดูหนาวแล้วเกือบ 20 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากอาจมีผู้เสียชีวิตบางรายที่ยังไม่ถูกพบ
ที่มา: รอยเตอร์