xs
xsm
sm
md
lg

‘เจฟฟ์ เบซอส’ จะสละเก้าอี้ซีอีโอ ‘แอมะซอน’ หลังพาบริษัทฟันยอดขายทะลุ $แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 29 ม.ค. 2018) เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของแอมะซอน กล่าวในพิธีเปิด “แอมะซอน สฟียร์ส” พื้นที่สำคัญส่วนหนึ่งในสำนักงานใหญ่ของบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา  ทั้งนี้ เบซอส ประกาศในวันอังคาร (2 ก.พ.) เขากำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ มาเป็นประธานกรรมการบริหารของแอมะซอน
เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง “แอมะซอน” เตรียมสละตำแหน่งซีอีโอให้แอนดี แจสซี หัวเรือใหญ่ธุรกิจคลาวด์ในเครือ ช่วงฤดูร้อนปีนี้ โดยผันตัวเองไปเป็นประธานกรรมการบริหาร หลังพาบริษัทกวาดยอดขายไตรมาสส่งท้ายปีที่แล้วทะลุแสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก การตัดสินใจนี้ยังส่งสัญญาณว่า แอมะซอนกำลังแปลงร่างจากกิจการผู้ค้าปลีกบนเว็บ สู่บทบาทกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่บนอินเทอร์เน็ตเต็มตัว

เบซอส วัย 57 ปี ได้พลิกธุรกิจแอมะซอน จากการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์เมื่อ 27 ปีที่แล้วกลายเป็นยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซและหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก โดยเมื่อวันอังคาร (2 ก.พ.) แอมะซอนรายงานผลประกอบการไตรมาสที่แล้ว (ต.ค.-ธ.ค. 2020) ที่ฟันยอดขายทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

ผู้ก่อตั้งแอมะซอน ซึ่งทุ่มเทความสนใจให้กับธุรกิจส่วนตัวอื่นๆ มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประกาศสละตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) และผันตัวไปเป็นประธานกรรมการบริหาร ในจดหมายถึงพนักงาน ซึ่งเขากล่าวว่า ในฐานะประธานกรรมการบริหาร เขาจะยังคงมีส่วนร่วมกับแผนการริเริ่มใหม่ๆ ของแอมะซอนต่อไป และจะมีเวลาและพลังเหลือเพียงพอสำหรับทุ่มเทให้กับกองทุน เดย์ วัน ฟันด์, เบซอส เอิร์ธ ฟันด์, บลู ออริจิน (บริษัทพัฒนายานอวกาศ), หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ และสิ่งที่สนใจอื่นๆ

เบซอสสำทับว่า ไม่เคยรู้สึกมีพลังเหลือเฟือแบบนี้มาก่อน และย้ำว่า นี่ไม่ใช่การเกษียณตัวเอง

ทางด้านไบรอัน โอลซาฟสกี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของแอมะซอน ยืนยันกับนักวิเคราะห์ว่า เบซอสจะยังคงมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อกิจการและยุทธศาสตร์อื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงของแอมะซอนต่อไป

สำหรับแจสซี วัย 53 ปี เรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเข้าทำงานกับแอมะซอนในปี 1997 เขาเป็นผู้ก่อตั้งกิจการ “แอมะซอน เว็บ เซอร์วิส” (เอดับเบิลยูเอส) และพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นระบบคลาวด์ที่มีผู้ใช้งานนับล้านๆ ในปัจจุบัน

แจสซียังเป็นตัวเก็งสำหรับตำแหน่งสูงสุดของแอมะซอน หลังจากที่มีการกำหนดบทบาทซีอีโอ 2 คนที่ต้องรายงานตรงต่อเบซอสเมื่อหลายปีที่แล้ว โดยซีอีโออีกคนคือ เจฟฟ์ วิลค์ เกษียณไปเมื่อไม่นานมานี้

เป็นที่ทราบกันดีว่า แจสซีมีความรู้ความเข้าใจรายละเอียดทางเทคนิคขั้นสูง และนิยมถากถางบริษัทคู่แข่งอย่าง ออราเคิล คอร์ป และไมโครซอฟท์อยู่เป็นประจำ ในขณะที่เบซอสนั้นไม่ค่อยพาดพิงถึงคู่แข่ง

ภายใต้การบริหารของแจสซี แอมะซอนได้เซ็นสัญญาให้บริการคลาวด์กับลูกค้ารายใหญ่มากมาย รวมถึงเวอไรซอน บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของอเมริกา, แมคโดนัลด์ และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่างฮันนีเวลล์ ขณะเดียวกัน สตาร์ทอัพในซิลิกอนแวลลีย์ส่วนใหญ่ล้วนพึ่งพาบริการของเอดับเบิลยูเอส ทำให้รายได้ของธุรกิจในเครือของแอมะซอนแห่งนี้พุ่งขึ้นถึง 37% ในปี 2019 และ 30% ในปี 2020

อย่างไรก็ตาม เอดับเบิลยูเอสพลาดหวังในการคว้าสัญญาสร้างระบบคลาวด์ให้ “เจได” ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีขนาดใหญ่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยผู้ได้โครงการนี้ไปคือไมโครซอฟท์

ในวันอังคาร แอมะซอนรายงานผลประกอบการไตรมาสที่แล้ว ซึ่งปรากฏว่าทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอยู่ที่ 125,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 44% จาก 87,400 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็ทำกำไรเพิ่มกว่า 2 เท่าตัวเป็น 7,200 ล้านดอลลาร์ โดยได้อานิสงส์จากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคสืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ทางด้าน อัลฟาเบ็ต บริษัทแม่ของกูเกิล ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปีที่แล้วในวันอังคารเช่นกัน ก็ได้แรงหนุนส่งจากปรากฏการณ์เดียวกันนี้ โดยระบุว่า กำไร ทะยานขึ้นถึง 50% อยู่ที่ 15,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 57,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 46,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันปี 2019

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)

(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 25 ต.ค. 2016) แอนดี แจสซี ซีอีโอของ แอมะซอน เว็บ เซอร์วิเซส (เอดับเบิลยูเอส) ซึ่ง เจฟฟ์ เบซอส ประกาศให้เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่ง ซีอีโอ แอมะซอน ต่อจากเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น