กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามในวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมนุม 2 เคสแรกในรอบเกือบ 2 เดือน หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับเชื้อกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากสหราชอาณาจักร ไม่กี่สัปดาห์ก่อนถึงเทศกาลตรุษญวน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีผู้คนรวมตัวกันในร่มจำนวนมาก
ก่อนถึงวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) เวียดนามมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม เพียง 1,551 ราย และเสียชีวิต 35 คน ผลจากมาตรการกักกันโรค การตรวจเชื้อและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิกอย่างเข้มข้น จนติด 3 อันดับแรกในผลสำรวจเกี่ยวกับชาติที่รับมือกับโรคระบาดใหญ่ได้ดีที่สุด
แต่ 2 เคสล่าสุดนี้ก่อความกังวลแก่เวียดนามพอสมควร แม้ถือเป็นจำนวนที่เล็กน้อยมากหากเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศต่างๆ
ในวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามออกคำสั่งให้จังหวัดทั้งหลายและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ยกระดับคัดกรองและควบคุมเข้มงวดยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่ากำลังมีความพยายามติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย หายเซือง และ ก๋วงนินห์ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน หนึ่งในนั้นมีความเกี่ยวข้องกับตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากสหราชอาณาจักร และสั่งล็อกดาวน์หมู่บ้านแห่งหนึ่งในหายเซือง
ข้อกังวลดังกล่าวมีขึ้นสืบเนื่องจากมีข้อสรุปว่าตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากสหราชอาณาจักร สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมมาก
“เราจำเป็นต้องใช้ทุกความพยายามระบุพื้นที่ติดเชื้อภายใน 10 วัน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด” วู ดัค ดัม หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจแห่งชาติด้านโควิด-19 ระบุในถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุข
เคสผู้ติดเชื้อใหม่ 2 รายล่าสุด เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีนักสำหรับรัฐบาล เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กำลังรวมตัวกันในกรุงฮานอย เพื่อประชุมใหญ่พรรครอบ 5 ปี เลือกผู้นำคนใหม่ โดยมีผู้แทน 1,600 คนจากทั่วเวียดนามเข้าร่วม
ในวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ประชุมร่วมกับคณะทำงานเฉพาะกิจแห่งชาติด้านโควิด-19 รอบนอกการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่
ทั้งนี้ สถานที่ที่ใช้สำหรับการประชุม ได้มีการบังคับผู้เข้าร่วมสวมหน้ากากตั้งแต่วันแรกเมื่อวันจันทร์ (25 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์มีการบังคับสวมหน้ากาก
หนึ่งในผู้ติดเชื้อ 2 รายล่าสุด เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติวังดุ่ง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพาผู้โดยสารขาเข้าจากต่างแดนที่ติดเชื้อ ไปยังศูนย์กักกันโรคโควิด-19
ส่วนอีกคนเป็นพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งสัมผัสใกล้ชิดกับพลเมืองชาวเวียดนามรายหนึ่ง ที่ต่อมาได้เดินทางไปยังญี่ปุ่นและมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สายพันธุ์สหราชอาณาจักรเป็นบวก
“พนักงานสนามบินรายนี้เดินทางไปสถานที่สาธารณะหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงโรงพยาบาล” กระทรวงสาธารณสุขระบุในถ้อยแถลง “ส่วนเคสพนักงานโรงงานซึ่งพิจารณาว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับตัวกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร เราจะดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอย่างเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในแนวทางที่ระมัดระวังอย่างที่สุด”
หลังจากโดนระลอกแรกของการแพร่ระบาดเล่นงานในเดือนเมษายน ทางเวียดนามไม่พบการแพร่ระบาดในชุมนุมเกือบ 100 วัน จนกระทั่งพบไวรัสปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในเมืองดานัง ทางภาคกลางของประเทศในเดือนกรกฎาคม ขณะที่เคสติดเชื้อในชุมชนรายสุดท้ายที่พบก่อนหน้านี้ ตรวจพบในเมืองนครโฮจิมินห์ เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม
(ที่มา : รอยเตอร์)