ศาลสูงสุดโสมขาวส่ง ‘บิ๊กซัมซุง’ กลับคุกคดีสินบนฉาว วิตกกระทบการปรับโครงสร้าง-กลยุทธ์ของกลุ่ม

ศาลสูงสุดเกาหลีใต้ตัดสินในวันจันทร์ (18 ม.ค.) จำคุก เจ. วาย. ลี รองประธานและผู้กุมอำนาจสูงสุดในทางพฤตินัยของบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ในความผิดตามคดีคอร์รัปชันอื้อฉาวในอดีต วิตกกันว่า เรื่องนี้อาจส่งผลให้การปรับโครงสร้างความเป็นเจ้าของ ในกลุ่มซัมซุงกรุ๊ป ต้องล่าช้าออกไป

ตอนที่ศาลอุทธรณ์สั่งปล่อยตัวเมื่อปี 2018 นั้น ลี วัย 52 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ ได้รับโทษจำคุกไปแล้ว 1 ปี จากทั้งหมด 5 ปี ตามข้อหาติดสินบน จากการขอให้ พัค กึน-ฮเย เมื่อตอนที่ยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ใช้อำนาจเพื่อช่วยให้การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นภายในอาณาจักรซัมซุงดำเนินไปได้ตามแผน ซึ่งจะช่วยเหลือให้การถ่ายโอนอำนาจจากบิดาผู้ป่วยหนักเรื้อรัง มายัง เจ. วาย. ลี ดำเนินไปอย่างราบรื่น

ทว่า หลังจากนั้น 1 ปีครึ่ง ศาลสูงสุดมีคำสั่งให้รื้อคดีมาพิจารณากันใหม่ และมีคำพิพากษาออกมาเมื่อวันจันทร์ (18) ให้จำคุกลีเพิ่มเติม โดยจะนับรวมเวลาที่เคยรับโทษไปแล้ว

เรื่องอื้อฉาวคราวนี้ยังสะท้อนความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างธุรกิจใหญ่กับนักการเมืองในเกาหลีใต้ โดยที่ทั้งพัคและผู้ช่วยคนสนิทของเธอถูกกล่าวหารับสินบนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งเพื่อแลกกับการปฏิบัติแบบพิเศษ และพัคต้องพ้นตำแหน่งไปอย่างไร้เกียรติในปี 2017

เวลานี้ ลี สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดได้ภายใน 7 วัน ทว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่า เนื่องจากศาลสูงสุดได้พิจารณาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้น จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัย

ศาลสูงสุดในกรุงโซลระบุว่า ลีมีความผิดในการติดสินบน ยักยอก และปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาจากอาชญากรรมมูลค่า 8,600 ล้านวอน (7.8 ล้านดอลลาร์) พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมการกำกับดูแลอิสระที่ซัมซุงก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปีที่แล้วยังไม่มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์

คำวินิจฉัยนี้ทำให้ลีไม่สามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญในซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกำกับดูแลกระบวนการสืบทอดจากบิดาของตน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาการควบคุมซัมซุง

ลีถือเป็นผู้นำซัมซุงกรุ๊ปตัวจริงมานานหลายปีนับจากที่บิดาของเขาซึ่งเป็นประธานบริษัท ได้ล้มป่วยหนักจากอาการหัวใจวาย และเสียชีวิตลงเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์เห็นพ้องกันว่า การดำเนินการวันต่อวันจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แต่ที่จะกระทบคือ การตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่มักมีผลให้เห็นได้เมื่อผ่านไปแล้วนานหลายปี เช่น การซื้อและผนวกกิจการ และการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่สำคัญ ตลอดจนถึงภาพลักษณ์ กลยุทธ์ระยะยาว เช่น การลงทุนสำหรับอนาคตและการปรับโครงสร้าง

ข่าวนี้ฉุดราคาหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทสมาร์ทโฟนและชิปความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นกิจการเรือธงของซัมซุงกรุ๊ป ให้ร่วงลงใส 3.4% นับเป็นการลดลงในวันเดียวแรงที่สุดในรอบ 5 เดือน

คาดกันว่า ลีจะกลับเข้าสู่เรือนจำทันทีในวันจันทร์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจพากันแสดงความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากซัมซุงเป็นแชโบลใหญ่ที่สุด และกลุ่มกิจการที่ควบคุมโดยตระกูลผู้ก่อตั้งเหล่านี้ร่วมกันครอบงำเศรษฐกิจของเกาหลีใต้มาเนิ่นนาน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)