นักประดาน้ำอินโดนีเซียสามารถเก็บกู้กล่องบันทึกข้อมูลการบิน (flight data recorder – FDR) ของเครื่องบินศรีวิจายาแอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุตกทะเลชวา มีผู้เสียชีวิต 62 รายได้แล้วเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังอินโดนีเซียเพื่อร่วมหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุด
ทีมประดาน้ำยังค้นพบอุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุ (radio beacon) ซึ่งทำให้มีความหวังว่ากล่องบันทึกเสียงภายในห้องนักบิน (cockpit voice recorder - CVR) ซึ่งจะมีอุปกรณ์ตัวนี้ติดอยู่น่าจะถูกค้นพบในอีกไม่ช้า และอาจช่วยเผยความจริงว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำนี้สูญเสียการควบคุม
“เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถเก็บกู้กล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินได้เร็วๆ นี้ เพราะมีการพบอุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุอยู่ในบริเวณดังกล่าว” ฮาดี จาห์จันโต ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอิเหนา บอกกับสื่อมวลชน
เครื่องโบอิ้ง 737-500 ลำนี้ดิ่งร่วงลงสู่ทะเลชวาเมื่อวันเสาร์ (10) หลังออกเดินทางจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาได้เพียง 4 นาทีก็หายไปจากหน้าจอเรดาร์
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุบัติเหตุการบินใหญ่ครั้งที่ 2 ของอินโดนีเซีย ตามหลังกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของไลอ้อนแอร์ตกในทะเลชวา เมื่อปี 2018 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 189 ราย ทว่าเครื่องบินของศรีวิจายาแอร์เป็นรุ่นขนาดเล็กกว่า และมีอายุการใช้งานนานเกือบ 27 ปีแล้ว
จาห์จันโต ระบุว่า คณะกรรมการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (KNKT) คาดว่า จะสามารถดาวน์โหลดข้อมูลจากกล่อง FDR ได้ภายใน 2-5 วัน
ก่อนที่กล่องดำใบแรกจะถูกพบ ทีมประดาน้ำยังสามารถเก็บกู้ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ได้อีกเป็นจำนวนมากในบริเวณจุดตกของเครื่องบิน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น กระเป๋าสตางค์ซึ่งมีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่
เครื่องบินลำนี้ออกเดินทางจากจาการ์ตาเพื่อจะมุ่งหน้าไปยังเมืองปนตีอานัก (Pontianak) ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 740 กิโลเมตรบนเกาะบอร์เนียว
ผลสอบสวนเบื้องต้นโดย KNKT พบว่า เครื่องยนต์ของศรีวิจายาแอร์ยังคงทำงานอยู่ขณะที่ตัวเครื่องดิ่งกระแทกผิวน้ำ โดยวิเคราะห์จากชิ้นส่วนที่เก็บกู้ได้จากทะเล
“ร่องรอยความเสียหายบริเวณใบพัดแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ตอนที่ตกกระแทก สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานที่ว่าระบบต่างๆ ของเครื่องบินยังคงทำงาน ขณะที่เครื่องดิ่งลงมาถึงระดับความสูง 250 ฟุต” ซูรยันโต จาห์โจโน ประธาน KNKT ระบุ
กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแถลงวานนี้ (12) ว่า เครื่องศรีวิจายาแอร์ลำนี้เคยถูกจอดทิ้งไว้นานหลายเดือนช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ แต่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยเดินอากาศแล้วเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ก่อนจะถูกนำกลับมาให้บริการอีกครั้ง
ล่าสุด มีรายงานว่า คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) เตรียมส่งผู้แทนและพนักงานสอบสวนอีก 3 นายไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อช่วยสืบหาสาเหตุการตกของเครื่องศรีวิจายาแอร์ โดยจะมีบุคลากรจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) รวมถึงผู้แทนของ เจเนอรัล อิเล็กทริก และ โบอิ้ง เดินทางไปสมทบด้วย
ที่มา: รอยเตอร์