อินโดนีเซียสามารถระบุตำแหน่งกล่องดำของเครื่องบินโดยสารสายการบินศรีวิจายา แอร์ ที่ดิ่งลงทะเลหลังขึ้นจากสนามบินจาการ์ตาไม่กี่นาที นอกจากนั้น ยังพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และวัตถุที่สงสัยว่า เป็นชิ้นส่วนเครื่องบินอีกจำนวนหนึ่ง
เครื่องบินโบอิ้ง 737-500 ในเที่ยวบินเอสเจ 182 ของศรีวิจายา แอร์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารพร้อมลูกเรือรวม 62 คน มุ่งหน้าสู่เมืองปอนเตียนัคในจังหวัดกะลิมันตันตะวันตกเมื่อวันเสาร์ (9 ม.ค.) หายไปจากจอเรดาร์หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงจาการ์ตาเพียง 4 นาที
โซร์จานโต เตียห์โจโน ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า พบตำแหน่งกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบินของเที่ยวบินเอสเจ 182 แล้ว ขณะที่ฮาดิ จะห์ยันโต ผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย แสดงความหวังว่า จะเก็บกู้กล่องดำทั้ง 2 อย่างได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบชิ้นส่วนเครื่องบินหลายชิ้นจมอยู่ใต้ทะเลที่ระดับความลึก 23 เมตร ใกล้หมู่เกาะนอกชายฝั่งจาการ์ตา ในจำนวนนี้รวมถึงชิ้นส่วนโลหะบิดเบี้ยวที่พ่นสีน้ำเงิน-แดง ที่เป็นสัญลักษณ์ของศรีวิจายา แอร์ นอกจากนั้น ยังพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และเสื้อผ้า
ตำรวจได้ติดต่อไปยังครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือเพื่อขอข้อมูล เช่น บันทึกข้อมูลทันตกรรมและตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อระบุอัตลักษณ์ของร่างที่พบ
เครื่องบินลำนี้มีลูกเรือ 12 คน และผู้โดยสาร 50 คน เป็นชาวอินโดนีเซียทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 7 คน และทารก 3 คน
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้และขอให้ประชาชนช่วยกันภาวนาให้พบผู้รอดชีวิต
ไฟลต์เรดาร์ 24 บริการติดตามการเดินทางทางอากาศ เผยว่า เครื่องบินลำนี้ออกจากท่าอากาศยานเมื่อเวลา 14.36 น. วันเสาร์ (ตามเวลาท้องถิ่น) และไต่ขึ้นถึงระดับความสูง 10,900 ฟุต ในเวลา 4 นาที ก่อนที่จะดิ่งลงและหยุดส่งข้อมูลใน 21 วินาทีต่อมา
ขณะนี้ ยังไม่พบเบาะแสที่บ่งชี้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยอุบัติเหตุทางอากาศส่วนใหญ่เกิดจากหลายปัจจัยผสมกันซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบนานนับเดือน
โฆษกกระทรวงคมนาคม เผยว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศไม่ได้ถามนักบินว่า ทำไมจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือแทนที่จะไปตามเส้นทางบินที่คาดหมายภายในไม่กี่วินาทีก่อนที่เครื่องจะหายไปจากจอเรดาร์
รายงานระบุว่า นักบินบนเครื่องมีประสบการณ์ยาวนานนับสิบปี โดยตัวกัปตันเป็นอดีตนักบินกองทัพอากาศ และทำงานร่วมกับผู้ช่วยนักบินในสายการบินแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2013
สำหรับเครื่องบินที่ตกเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-500 ที่ใช้งานมาเกือบ 27 ปี เก่ากว่าโบอิ้ง 737 แม็กซ์ที่มีปัญหามาก
โบอิ้งออกคำแถลงว่า ได้ติดต่อกับศรีวิจายา แอร์แล้ว และพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่
ศรีวิจายา แอร์ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 มีฐานการดำเนินงานในจาการ์ตา ส่วนใหญ่ให้บริการเที่ยวบินในประเทศ สายการบินราคาประหยัดแห่งนี้มีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดี ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ 4 ครั้งที่บันทึกในฐานข้อมูลเอวิเอชัน เซฟตี้ เน็ตเวิร์ก
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียครั้งแรกนับจากที่เครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ของไลอ้อน แอร์ ดิ่งลงทะเลชวาไม่นานหลังออกจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา เมื่อปี 2018 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 คนเสียชีวิต
ข้อมูลของเอวิเอชัน เซฟตี้ เน็ตเวิร์ก ยังระบุว่า ก่อนโศกนาฏกรรมล่าสุดนี้ อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกมากที่สุดในโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ปี 2007 สหภาพยุโรป (อียู) ออกคำสั่งแบนสายการบินทั้งหมดของอินโดนีเซียภายหลังเกิดเหตุเครื่องบินตกหลายครั้ง โดยมีรายงานว่า การกำกับดูแลและการซ่อมบำรุงไร้ประสิทธิภาพนับจากการผ่อนคลายกฎระเบียบในช่วงปลายทศวรรษ 1990 อย่างไรก็ดี อียูยกเลิกมาตรการแบนดังกล่าวเมื่อปี 2018
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)