ศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งวันนี้ (8 ม.ค.) ให้ญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่สตรีชาวเกาหลี 12 คนซึ่งถูกบังคับให้ทำงานเป็นโสเภณีบำเรอกามแก่ทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่รัฐบาลโตเกียวออกมาแถลงโต้ทันควันอย่างเผ็ดร้อน ท่ามกลางปมพิพาทที่ส่อแววปะทุขึ้นมาใหม่
ประวัติศาสตร์ในช่วงที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 1910-1945 เป็นสิ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างหยิบยกขึ้นมาเถียงกันไม่รู้จบ และชาวเกาหลีที่ถูกบังคับให้เป็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” (comfort women) ก็เรียกร้องเรื่อยมาให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายเงินชดเชยและขออภัยอย่างเป็นทางการ
ฝ่ายญี่ปุ่นอ้างว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่ยุติแล้วภายใต้ข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1965 และทั้ง 2 ชาติยังได้ประกาศยุติข้อพิพาท “อย่างไม่สามารถย้อนกลับได้” อีกครั้งในปี 2015
อย่างไรก็ตาม ศาลแขวงกลางกรุงโซลได้มีคำสั่งล่าสุดให้ญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่อดีตสตรีเพื่อการผ่อนคลายชาวเกาหลีคนละ 100 ล้านวอน (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ฉบับไม่สามารถปิดกั้นสิทธิ์ของพวกเธอในการเรียกร้องเงินชดเชย
คัตสึโนบุ คาโตะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น วิจารณ์คำตัดสินนี้ว่าเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้” และขอให้รัฐบาลเกาหลีใต้มีมาตรการตอบสนองที่เหมาะสมต่อไป ขณะที่ ทาเคโอะ อากิบะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ก็ได้เรียกเอกอัครราชทูต นัม กวาน-พยอ ของเกาหลีใต้เข้าพบเพื่อ “ประท้วงอย่างรุนแรง”
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ แต่เอกอัครราชทูต นัม ได้ให้สัมภาษณ์ที่โตเกียวว่า จะพยายามป้องกันไม่ให้คำพิพากษาดังกล่าวกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้นำโสมขาวเมื่อปี 2017 ประธานาธิบดี มุน แจอิน ได้ประกาศให้ข้อตกลงปี 2015 ซึ่งญี่ปุ่นยอมที่จะขออภัยอย่างเป็นทางการ และจ่ายเงินทุนอีก 1,000 ล้านเยนเพื่อช่วยเหลืออดีตทาสกาม กลายเป็น “โมฆะ”
นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่า มีเด็กสาวชาวเกาหลีมากถึง 200,000 คนถูกเกณฑ์ไปเป็นโสเภณีบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่นในยุคอาณานิคม โดยบางกรณีก็เป็นการบังคับให้ทำงานเพื่อชดใช้หนี้แทนญาติ
“นี่คือการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ญี่ปุ่นได้กระทำอย่างเป็นระบบ จงใจ และกว้างขวาง โดยละเมิดหลักการสากล” ผู้พิพากษา คิม จองกอน ระบุในคำตัดสิน “ต่อให้เป็นการกระทำโดยรัฐาธิปัตย์ แต่ความคุ้มกันของรัฐบาลต่างประเทศ (state immunity) ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ เนื่องจากอาชญากรรมนี้ได้กระทำต่อพลเมืองของเราบนคาบสมุทรเกาหลีที่ถูกญี่ปุ่นเข้ามายึดครองอย่างผิดกฎหมาย”
ปัจจุบันมีสตรีเพื่อการผ่อนคลายชาวเกาหลีเพียง 16 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ และ 6 คนจากทั้งหมด 12 คนที่ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากญี่ปุ่นเมื่อปี 2016 ได้เสียชีวิตลงแล้ว
ที่มา: รอยเตอร์