xs
xsm
sm
md
lg

อียูเริ่มผ่อนปรนคำสั่ง‘แบนอังกฤษ’ บริษัทยามั่นใจวัคซีนสู้ไวรัสกลายพันธุ์ได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พวกคนขับรถรรทุกและพาหนะของพวกเขาจำนวนมาก เข้าแถวเพื่อพยายามเข้าสู่ท่าเรือของเมืองโดเวอร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอิงก์แลนด์ เมื่อวันพุธ (23 ธ.ค.) หลังจากอังกฤษกับฝรั่งเศสตกลงกันได้เกี่ยวกับพิธีการในการเปิดชายแดนระหว่างกันอีกครั้ง โดยที่มีรถบรรทุกสินค้าจอดรอคับคั่งอยู่ทางฟากอังกฤษ ด้วยความประสงค์จะลงเรือเฟอร์รี่ข้ามไปทางฟากฝรั่งเศส
หลายประเทศยุโรปเริ่มยกเลิกคำสั่งห้ามผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ ด้วยความหวาดผวาไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ซึ่งสามารถระบาดอย่างรวดเร็วกว่าเดิม ทั้งนี้หลังจากอียูเรียกร้องด้วยความกังวลว่าจะกระทบต่อการเดินทางที่จำเป็นและทำให้สายโซ่อุปทานสะดุดติดขัด ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญของ WHO รีบหารือกันโดยเร็วเกี่ยวกับการรับมือกับโควิดกลายพันธุ์นี้ และบริษัทยาอย่างน้อย 4 แห่งเชื่อวัคซีนของตนยังคงมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกัน

ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายใหม่กำลังระบาดไปในอังกฤษ และกระตุ้นให้เกิดความแตกตื่นในทั่วโลก ขณะที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังเริ่มทยอยออกมาให้ใช้งาน

อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป แถลงในวันอังคาร (22 ธ.ค.) เรียกร้องให้พวกชาติสมาชิกอายูยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางซึ่งประกาศใช้กับอังกฤษในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งยังตรวจพบในจำนวนน้อยๆ ตามที่อื่นๆ อีกไม่ใช่มีแต่เฉพาะในอังกฤษ ดูเหมือนสามารถระบาดไปได้รวดเร็วกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์อื่นๆ แต่พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่ามันมีอันตรายถึงชีวิตมากกว่าสายพันธุ์อื่น หรือมีฤทธิ์ต้านทานวัคซีน

อียูเสนอว่า แทนที่จะห้ามเที่ยวบินรวมทั้งเที่ยวรถไฟ และรถบรรทุกสินค้าที่มาจากอังกฤษ อาจใช้มาตรการอื่น เช่น การให้ผู้โดยสารจากอังกฤษต้องผ่านทดสอบไวรัสล่วงหน้าภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง พร้อมกับย้ำว่า หากการห้ามยังไม่หยุต ก็จะสร้างความเสียหายให้แก่การเดินทางที่มีความจำเป็น และเกิดการสะดุดติดขัดในสายโซ่อุปทาน

นอกจากนั้น พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อังกฤษอาจขาดแคลนอาหารสดบางอย่างในช่วงคริสต์มาส หากฝรั่งเศสยังไม่เปิดพรมแดนรับการเดินทางและการขนส่งจากอังกฤษตั้งแต่วันพุธ

ในวันพุธ ฝรั่งเศสตกลงเปิดการเดินทางข้ามพรมแดนกับอังกฤษอีกครั้ง แต่ยังกำหนดให้ผู้เดินทางต้องสามารถแสดงผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ

การห้ามการเดินทางเข้าฝรั่งเศสที่ผ่านมา ได้ทำให้มีรถบรรทุกสินค้าจอดคั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณภาคใต้ของอิงแลนด์ ขณะที่พวกผู้โดยสารซึ่งต้องการเดินทางในช่วงคริสต์มาสไม่ว่าทางอากาศหรือทางรถไฟ ก็เคว้งคว้างไปไหนไม่ได้

ด้านเนเธอร์แลนด์ก็แถลงเช่นกันว่า เริ่มยกเลิกการแบนตั้งแต่วันพุธ แต่ผู้เดินทางจากอังกฤษทุกคนต้องแสดงผลการตรวจโควิดเร็วๆ นี้ที่ระบุว่าเป็นลบ

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ภาคพื้นยุโรป แถลงยืนยันว่านัดประชุมผู้เชี่ยวชาญในวันพุธ (23) เพื่อหารือยุทธศาสตร์การตรวจและการลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อของไวรัสกลายพันธุ์ที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว

ส่วนอูกูร์ ซาฮิน ประธานบริหารไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีที่เป็นหุ้นส่วนร่วมพัฒนาวัคซีนกับไฟเซอร์ของอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (22) ว่า วัคซีนของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี mRNA มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ที่กำลังระบาดรุนแรงในบางพื้นที่ของอังกฤษ

ซาฮินแจงว่า ในทางวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มสูงมากที่การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนของบริษัทสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ และเสริมว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะรู้ผลการศึกษาเรื่องนี้

ผู้ร่วมก่อตั้งไบโอเอ็นเทคเสริมว่า วัคซีนของบริษัทประกอบด้วยกรดอะมิโนกว่า 1,270 ชนิด ขณะที่ในไวรัสกลายพันธุ์มีกรดอะมิโนเพียง 9 ชนิดที่เปลี่ยนแปลง เท่ากับว่า โปรตีน 99% ของไวรัสกลายพันธุ์ยังคงมีลักษณะเดิม

ซาฮินสำทับว่า โดยหลักการแล้ว เทคโนโลยี mRNA ทำให้นักวิจัยสามารถปรับส่วนประกอบทางพันธุกรรมในวัคซีนอย่างรวดเร็วเพื่อให้ตรงกับโปรตีนในไวรัสกลายพันธุ์ ขณะที่การปรับวัคซีนแบบเดิมต้องมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นหลายอย่าง และถ้าจำเป็น บริษัทสามารถผลิตวัคซีนใหม่ได้ภายใน 6 สัปดาห์เท่านั้น

ด้านโมเดอร์นาของอเมริกา, เคียวแว็กของเยอรมนี และแอสตราเซเนกาของอังกฤษ ต่างเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนของตนเช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยี mRNA มีเพียงแอสตราเซเนกาที่ใช้ไวรัสอะดีโนที่พบในชิมแปนซีเพื่อสร้างส่วนประกอบทางพันธุกรรมจากไวรัสโคโรนาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

ข้อมูลล่าสุดจนถึงวันอังคารพบว่า ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 1.7 ล้านคน

ที่เกาหลีใต้ ประธานาธิบดีมุน แจอินกำลังถูกกดดันอย่างหนัก ขณะที่ประเทศเผชิญการระบาดระลอก 3 และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดอันดับที่ 2

สื่อท้องถิ่นโจมตีแนวทางของรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมุ่งฝากความหวังไว้กับผู้ผลิตวัคซีนภายในประเทศมากเกินไป เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ต้องรอนานกว่าวัคซีนจากเมืองนอก

โพลที่จัดทำโดยบริษัทวิจัยรีลมิเตอร์พบว่า ชาวเกาหลีใต้ 60% เชื่อว่า โครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนควรคำนึงถึงความเร่งด่วนก่อนความปลอดภัย และควรเริ่มฉีดโดยเร็วที่สุด

ค่ำวันอังคาร สำนักประธานาธิบดีแถลงว่า โครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจะไม่เริ่มต้น “ช้าเกินการ” จากก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลระบุว่า อย่างเร็วที่สุดอาจเป็นเดือนกุมภาพันธ์
อนึ่ง เมื่อวันพุธ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคดีซีเอ) แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 1,092 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 52,550 คน และผู้เสียชีวิตทั้งหมด 739 คน

ทั้งนี้ สถิติเคสใหม่สูงสุดอันดับ 1 คือ 1,097 คนที่บันทึกไว้เมื่อวันอาทิตย์ (20)

(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น