เอพี - อังกฤษเริ่มการฉีดวัคซีนโควิดของไฟเซอร์ล็อตแรกในวันอังคาร (8 ธ.ค.) ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของโปรแกรมการฉีดวัคซีนทั่วโลก ที่คาดว่าจะเสถียรขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีวัคซีนที่ได้รับอนุมัติเพิ่มเติมมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นความหวังว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเอาชนะไวรัสโคโรนา
การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนามีกำหนดเริ่มต้นในวันอังคาร ที่โรงพยาบาลหนึ่งในเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วอังกฤษ ซึ่งการเริ่มโครงการแจกจ่ายวัคซีนเริ่มแรกนี้ใช้ชื่อว่า “วี-เดย์”
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขขอให้ประชาชนอดทน เนื่องจากในขั้นต้นจะฉีดวัคซีนให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดก่อน โดยบุคลากรทางการแพทย์จะติดต่อเพื่อนัดหมายกับผู้ป่วย และประชาชนส่วนใหญ่ต้องรอจนถึงปีหน้ากว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับการขยายโปรแกรม
ไซมอน สตีเวนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ แสดงความหวังว่า การเริ่มแจกจ่ายวัคซีนครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา
วัคซีน 800,000 โดสแรก จะฉีดให้ประชาชนอายุ 80 ปีขึ้นไปทั้งที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หรือได้รับการนัดหมายพบแพทย์ในฐานะผู้ป่วยนอก รวมถึงบุคลากรในสถานพักฟื้นคนชรา
ทางด้านสำนักพระราชวังบักกิงแฮมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานที่ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง พระชนมายุ 94 พรรษา และเจ้าชายฟิลิป พระราชสวามี พระชนมายุ 99 พรรษา จะได้รับการฉีดวัคซีนล็อตแรกนี้ด้วย เพื่อเป็นแบบอย่างกระตุ้นให้ประชาชนฉีดวัคซีน
แพทย์หญิงจูน เรน ประธานบริหารสำนักงานควบคุมผลิตภัณฑ์การแพทย์และสุขอนามัยของอังกฤษ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซีว่า เป้าหมายของสำนักงานฯ คือ ปกป้องประชาชนทุกคน รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเทศต่างๆ กำลังจับตาการแจกจ่ายวัคซีนของอังกฤษ ระหว่างเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการฉีดวัคซีนประชาชนนับพันลานคน เพื่อยุติวิกฤตโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1.5 ล้านคน
โปรแกรมการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรเริ่มต้นเป็นชาติแรกของโลกหลังจากอังกฤษอนุมัติการใช้ฉุกเฉินสำหรับวัคซีนที่ไฟเซอร์ของอเมริกาพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทค ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) กำลังพิจารณาอนุมัติวัคซีนนี้ รวมถึงวัคซีนของโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของอเมริกาที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ และแอสตราเซเนกา บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน
วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ล็อตแรกจัดส่งถึงโรงพยาบาลบางกลุ่มในสหราชอาณาจักรเมื่อวันอาทิตย์ (6 ธ.ค.) ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า 61,000 คน มากที่สุดในยุโรป และผู้ติดเชื้อกว่า 1.7 ล้านคน
วัคซีนล็อตแรก 800,000 โดส ที่ได้รับเป็นเพียงเศษเสี้ยวของที่อังกฤษต้องการ โดยรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนกว่า 25 ล้านคน หรือราว 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในเฟสแรก ซึ่งกำหนดฉีดให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อมากที่สุดก่อน
หลังจากประชากรกลุ่มอายุ 80 ปีขึ้นไป และบุคลากรในสถานพักฟื้นคนชรา อังกฤษจะขยายโปรแกรมทันทีที่ได้รับวัคซีนเพิ่มและจะแจกจ่ายโดยอิงกับกลุ่มอายุ เริ่มจากผู้สูงวัย
ในอังกฤษ วัคซีนล็อตแรกจะถูกจัดส่งไปยังฮับโรงพยาบาล 50 แห่ง ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์ และเวลส์ กำหนดแผนการของตัวเองภายใต้ระบบการจัดการของสหราชอาณาจักร
ปัญหาลอจิสติกส์ทำให้กระบวนการแจกจ่ายวัคซีนไฟเซอร์ล่าช้า เนื่องจากต้องจัดเก็บวัคซีนที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังต้องเน้นจุดแจกจ่ายขนาดใหญ่ เนื่องจากแต่ละแพกเกจบรรจุวัคซีนอยู่ถึง 975 โดส
สหราชอาณาจักรตกลงซื้อวัคซีนหลายล้านโดสจากผู้ผลิต 7 ราย ขณะที่ทั่วโลกกำลังทำข้อตกลงกับผู้พัฒนาวัคซีนหลายแห่งเพื่อให้แน่ใจว่า จะมีวัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้อย่างแพร่หลายในท้ายที่สุด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) รัสเซียเริ่มฉีดวัคซีนสปุตนิก วี ให้แพทย์และครูหลายพันคน รวมถึงจัดส่งไปยังศูนย์การแพทย์หลายสิบแห่งในกรุงมอสโก อย่างไรก็ตาม รัสเซียอนุมัติให้ใช้วัคซีนนี้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาหลังจากทดสอบกับอาสาสมัครเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น