ศาลตุรกีตัดสินจำคุกตลอดชีวิตนายทหาร, นักบิน และพลเรือนหลายร้อยคน ซึ่งเป็นแกนนำในความพยายามก่อรัฐประหารโค่นประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน เมื่อปี 2016
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ปี 2016 กลุ่มทหารกบฏได้นำเครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์ และรถถังออกจากฐานทัพอากาศใกล้กรุงอังการาเพื่อเข้าควบคุมสถาบันหลักต่างๆ และหวังที่จะโค่นอำนาจของรัฐบาล แอร์โดอัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะมากกว่า 250 คน
การไต่สวนความผิดของจำเลยเกือบ 500 คนครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เชื่อมโยงกับความพยายามก่อรัฐประหารซึ่งมีผู้ร่วมสมคบคิดหลายพันคน โดยรัฐบาลตุรกีกล่าวโทษว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝีมือกลุ่มเครือข่ายของ ‘เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน’ นักการศาสนาซึ่งเป็นปรปักษ์กับแอร์โดอัน
อย่างไรก็ดี กูเลน ซึ่งหลบหนีไปอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ นานกว่า 20 ปีแล้วยืนยันว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย
จำเลยกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการรัฐประหาร ทิ้งระเบิดใส่หน่วยงานราชการและรัฐสภา ทั้งยังพยายามลอบสังหาร แอร์โดอัน ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีผู้บัญชาการทหารตุรกีหลายคนถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาเดียวกันไปแล้ว
“เครือข่ายกบฏซึ่งได้ทิ้งระเบิดใส่อาคารรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และพลเรือน ได้ถูกตัดสินลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง” โอเมอร์ เซลิก โฆษกพรรคความยุติธรรมและการพัฒนา (AK Party) ของแอร์โดอัน แถลงวานนี้ (26 พ.ย.)
สำนักข่าวอนาโดลูรายงานว่า แกนนำ 4 คนซึ่งได้ฉายาว่า “อิหม่ามพลเรือน” เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของกูเลน เป็นหนึ่งในจำเลย 19 คนที่โดนโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานหนัก (aggravated life sentence) ฐานพยายามลอบสังหารประธานาธิบดี, ฆาตกรรม และวางแผนล้มล้างรัฐธรรมนูญ
กลุ่มนักบิน F-16 ที่ลงมือโจมตีสถานที่ต่างๆ ก็ถูกจำคุกตลอดชีวิตสถานหนัก ซึ่งถือเป็นบทลงโทษขั้นสูงสุดในระบบศาลของตุรกี โดยจำเลยจะไม่มีสิทธิ์ขอทำทัณฑ์บน
จำเลยคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ล้วนถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดยมีเพียง 60 คนที่ได้รับโทษจำคุกลดหลั่นลงมา ส่วนที่เหลืออีก 70 คนศาลให้ยกฟ้อง
ฮูลูซี อาการ์ อดีตผู้บัญชาการทหารตุรกีซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ถูกกลุ่มผู้ก่อการรัฐประหารจับเป็นตัวประกันพร้อมกับผู้บัญชาการทหารคนอื่นๆ นานหลายชั่วโมงในคืนเกิดเหตุ
กูเลน วัย 79 ปี เป็นหนึ่งใน 6 ผู้ต้องหาซึ่งศาลทำการไต่สวนลับหลังจำเลย และเจ้าตัวยังคงปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนรัฐประหารโค่นแอร์โดอัน
ภายหลังเกิดเหตุ รัฐบาลตุรกีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการจับกุมเจ้าหน้าที่และพลเรือนราว 292,000 คนที่รัฐบาลเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกูเลน โดยเวลานี้ยังมีผู้ต้องสงสัยเกือบ 100,000 คน ถูกขังอยู่ในเรือนจำเพื่อรอการไต่สวน
พนักงานรัฐราว 150,000 คน ถูกปลดหรือพักงานภายหลังการรัฐประหารที่ล้มเหลว และมีทหารถูกไล่ออกจากกองทัพถึง 20,000 คน
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีรัฐประหารไปแล้วมากกว่า 2,500 คน และตำรวจตุรกียังคงเดินหน้าจับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันเครือข่ายของ เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน อยู่เนืองๆ
ที่มา: รอยเตอร์