ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันพฤหัสบดี (26 พ.ย.) ว่าเขาจะออกทำเนียบขาว หากว่าคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) โหวตเลือกว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากเดโมแครต ในความเคลื่อนไหวที่ถือเป็นการเฉียดใกล้การยอมรับความพ่ายแพ้มากที่สุด นับตั้งแต่ผ่านพ้นศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พฤศิกายน แต่ยังคงเน้นย้ำคำกล่าวหาว่ามีการโกงอย่างมโหฬาร
ทรัมป์กับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้าว่า หากไบเดน ตัวแทนจากเดโมครต ได้รับการรับรองเป็นผู้ชนะในศึกเลือกตั้งจากคณะผู้เลือกตั้ง เขาก็จะออกจากทำเนียบขาว
คณะผู้เลือกตั้งมีกำหนดเปิดประชุมลงมติเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปในวันที่ 14 ธันวาคม และหากไม่มีอะไรพลิกความคาดหมาย ไบเดน จะมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกว่ามันเป็นเรื่องยากที่เขาจะยอมรับความพ่ายแพ่ในกรณีแวดล้อมปัจจุบัน และปฏิเสธยืนยันว่าเขาจะไปเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดนหรือไม่ “การเลือกตั้งมีการโกง” ทรัมป์เน้นย้ำโดยไม่นำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับความผิดปกติใดๆ ของศึกเลือกตั้ง
ทรัมป์ และไบเดน ต่างเลือกฉลองวันขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดี (26 พ.ย.) อยู่แถวๆ บ้าน ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังคงสาหัสทั่วประเทศ
ไบเดน ใช้เวลาในช่วงหยุดในเรโฮโบท เมืองเล็กๆ ริมทะเลในรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเขาและจิลล์ ภรรยา มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั่น โดยมีข่าวว่า แอชลีย์ ไบเดน ลูกสาว และดอกเตอร์ ฮาเวิร์ด เครน สามีของเธอ จะมาร่วมรับประทานอาหารฉลองวันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับทั้งคู่ด้วย
ในส่วนของทรัมป์ซึ่งบ่อยครั้งมักชอบฉลองวันหยุดที่รีสอร์ตมาร์อาลาร์โกของเขาในรัฐฟลอริดา แต่ในวันพฤหัสบดี (26 พ.ย.) เขายังคงอยู่ในพื้นที่วอชิงตัน ใช้เวลาในตอนเช้าออกรอบที่ ทรัมป์ เนชันแนล กอล์ฟ สนามกอล์ฟของตนเองในเวอร์จิเนีย
ทั้งนี้ ความคิดเห็นล่าสุดของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากนั้นที่ทำเนียบขาว หลังจากเขาพูดคุยทางไกลผ่านทางจอภาพกับบรรดานายทหารสหรัฐฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ในวันขอบคุณพระเจ้า
เมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ สร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางไปยังอัฟกานิสถานโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า จัดไก่งวงเสิร์ฟให้เหล่าทหารสหรัฐฯ บางส่วน ก่อนร่วมรับประทานอาหารค่ำในวันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับพวกเขา แต่ในปีนี้ทรัมป์เลือกพูดคุยกับกำลังพลผ่านวิดีโอลิงก์จากทำเนียบขาวแทน
ไบเดน ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 306 คะแนน มากกว่าที่ต้องการ 270 คะแนน ขณะที่ ทรัมป์ ได้คะแนคณะผู้เลือกตั้ง 232 คะแนน นอกจากนี้แล้ว ไบเดนยังมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวตนำหน้า ทรัมป์ อยู่มากกว่า 6 ล้านคะแนน
จนถึงตอนนี้ ทรัมป์ ยังปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ และยังคงกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานใดๆ ว่าการเลือกตั้งแปดเปื้อนไปด้วยการโกงอย่างกว้างขวาง และเขาเป็นฝ่ายชนะ ไม่ใช่ ไบเดน
(ที่มา : รอยเตอร์)