ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยกับบรรดาคนสนิทว่าเขาจะใช้อำนาจสั่งอภัยโทษ “ไมเคิล ฟลินน์” อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงของทำเนียบขาว ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เรื่องการติดต่อ “รัสเซีย” ในช่วงก่อนที่ ทรัมป์ จะสาบานตนเป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 2016
แหล่งข่าวระบุว่า นอกจาก ฟลินน์ แล้วยังมีบุคคลอีกหลายคนที่ ทรัมป์ กำลังพิจารณาสั่งอภัยโทษด้วยเช่นกัน แต่ก็ย้ำว่าผู้นำสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนใจก็เป็นได้
แม้จะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต คือ ผู้ชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ ทรัมป์ ยังปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการ และอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่าตนถูกโกงเลือกตั้ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยอมเซ็นอนุมัติให้เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจสู่มือ ไบเดน เมื่อวันจันทร์ (23) เพื่อให้อีกฝ่ายสามารถเริ่มปฏิบัติภารกิจในช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้า
ทั้งนี้ หาก ทรัมป์ อภัยโทษให้แก่ ฟลินน์ จริง จะถือเป็นการใช้อำนาจอภัยโทษครั้งสำคัญที่สุดตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อ 4 ปีก่อน
ฟลินน์ ซึ่งเป็นนายพลวัยเกษียณยอมรับสารภาพเมื่อปี 2017 ว่า โกหกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอเรื่องการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ ทรัมป์ จะสาบานตน ทว่าในภายหลังเขาพยายามที่จะถอนคำรับสารภาพ โดยอ้างว่าถูกอัยการล่อล่วงและละเมิดสิทธิ
ฟลินน์ เป็นหนึ่งในอดีตคนสนิทของ ทรัมป์ ที่ยอมรับสารภาพ หรือถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงในคดีต่างๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับกรณีรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2016 เพื่อช่วยให้ ทรัมป์ เอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต
ทรัมป์ เคยพูดเมื่อเดือน มี.ค. ว่า ตน “กำลังพิจารณาอย่างจริงจัง” ว่าจะอภัยโทษให้แก่ ฟลินน์ ทั้งยังกล่าวหาเอฟบีไอกับกระทรวงยุติธรรมว่า “ทำลาย” ชีวิตและครอบครัวของอดีตนายพลรายนี้
ที่มา: รอยเตอร์