สหรัฐฯจะปรับกำลังทหารในอัฟกานิสถานและอิรัก สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปี หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้สัญญาว่าจะยุติความขัดแย้งต่างๆ ในต่างแดน ตามคำแถลงของเพนตากอนในวันอังคาร (17 พ.ย.)
คริส มิลเลอร์ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม แถลงว่า กำลังพลราวๆ 2,000 นาย จะถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานในวันที่ 15 มกราคม และอีกกว่า 500 นายจะถอนกำลังจากอิรัก ส่งผลให้แต่ละประเทศ เหลือทหารสหรัฐฯประจำการอยู่ชาติละ 2,500 นาย
“ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการสะท้อนนโยบายของทรัมป์ ที่ต้องการดึงสงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก สู่จุดสิ้นสุดด้วยความสำเร็จและความรับผิดชอบ และนำพากำลังพลผู้กล้าหาญของเรากลับบ้าน” มิลเลอร์กล่าว
รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมบอกต่อว่า สหรัฐฯบรรลุเป้าหมาย ซึ่งกำหนดไว้ในปี 2001 หลังอัลกออิดะห์โจมตีสหรัฐฯ “สำหรับปราบปรามพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง และเพื่อช่วยคู่หูท้องถิ่นกับพันธมิตร มีความได้เปรียบในการต่อสู้”
“ด้วยพรแห่งความรอบคอบ ในขวบปีที่กำลังมาถึง เราจะจบสงครามนี้ แล้วนำพาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีของเรากลับบ้าน” เขากล่าว “เราจะปกป้องเด็กๆ ของเราจะการแบกภาระอันหนักอึ้ง และความสูญเสียจากสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราจะเชิดชูเหล่าผู้เสียสละทั้งหลาย ที่ยอมพลีชีพรับใช้สันติภาพและเสถียรภาพในอัฟกานิสถาน อิรัก และทั่วโลก”
ถ้อยแถลงนี้มีขึ้น 10 วัน หลังจาก ทรัมป์ ไล่ มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมออกจากตำแหน่ง หลัง เอสเปอร์ ยืนกรานถึงความจำเป็นที่ต้องคงทหาร 4,500 นายไว้ในอัฟกานิสถาน เพื่อสนับสนุนรัฐบาลคาบูล ในระหว่างเจรจาสันติภาพกับพวกนักรบตอลิบาน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯได้ปรับลดกำลังพลในอัฟกานิสถานลงมาแล้วเกือบ 2 ใน 3 จากทั้งหมดราวๆ 13,000 นายในปีนี้ หลังจากเกิดข้อตกลงสันติภาพระหว่างอเมริกากับตอลิบานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันในตอนนั้นว่า ตอลิบานจะยอมเจรจาข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน แลกกับการที่สหรัฐฯถอนทหารทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม 2021
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ มิลเลอร์ จะเข้ามาทำหน้าที่แทน เอสเปอร์ บรรดานายพลของเพนตากอนระบุว่า พวกตอลิบานไม่ได้ทำตามคำสัญญาลดการโจมตีรุนแรงต่อกองกำลังของรัฐบาล และบอกว่า การปรับลดกำลังทหารกลายเป็นการช่วยลดแรงกดดันที่มีต่อพวกตอลิบานในการเจรจา
คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางเสียงคัดค้านจากบรรดาพันธมิตรและเหล่านักการเมืองระดับสูงของสหรัฐฯที่แสดงความกังวลว่าการปรับลดกำลังทหารจะทำให้รัฐบาลอัฟกานิสถานและอิรัก อ่อนแอในการเผชิญหน้ากับพวกกลุ่มก่อการร้าย
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เตือนในวันอังคาร (17 พ.ย) ว่า “อัฟกานิสถานเสี่ยงกลับมาเป็นฐานที่พวกก่อการร้ายระหว่างประเทศ ใช้วางแผนและบงการการโจมตีบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเรา และกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อาจฟื้นการปกครองแบบกาหลิบในอัฟกานิสถาน หลังพวกเขาพ่ายแพ้ในซีเรียและอิรัก”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ซึ่งพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน ต่อ โจ ไบเดน มีความตั้งใจทำตามคำสัญญาที่เคยหาเสียงเอาไว้ในปี 2016 ว่าจะนำพาทหารสหรัฐฯกลับบ้าน และยุติค่าใช้จ่ายอันมหาศาลในการทำสงครามในต่างแดน
(ที่มา: เอเอฟพี)