อันวิซา (Anvisa) ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขของบราซิล อนุญาตให้ ซิโนวัค บริษัทสัญชาติจีน กลับมาทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายสำหรับวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่าเหตุเสียชีวิตอาสาสมัครรายหนึ่งในเซาเปาลู ที่ทำให้ต้องระงับการทดลองชั่วคราวนั้น เกิดจากการฆ่าตัวตายและไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับวัคซีน
บูตันตัน สถาบันการแพทย์ของบราซิล ระบุในถ้อยแแถลงว่าจะกลับมาเดินหน้าการทดลอง หลังจากนี้ในวันพุธ (11 พ.ย.)
ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล ชูการตัดสินใจ อันวิซา ที่สั่งระงับการทดลองเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ว่าเป็น “ชัยชนะส่วนตัว” เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีความเคลือบแคลงใจในจีนมาช้านาน และไม่ยอมรับวัคซีนของซีโนวัค โดยอ้างว่ามันขาดความน่าเชื่อถือ
การตัดสินของอันวิซาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากองค์กรการทดลองต่างๆ ซึ่งบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากมันไม่จำเป็นต้องหยุดการศึกษาวิจัยแต่อย่างใด เพราะการเสียชีวิตนั้นไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน
คำสั่งระงับทดลองโหมกระพือความตึงเครียดเพิ่มเติมระหว่าง โบลโซนารู กับ ชูเอา โดเรีย ซึ่งปักหมุดความทะเยอทะยานทางการเมืองไว้ที่วัคซีนจีน โดยเขามีเป้าหมายเปิดตัวใช้วัคซีนในรัฐของเขา อย่างเร็วที่สุดในเดือนมกราคม ไม่ว่าจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลกลางหรือไม่ก็ตาม
อันวิซา ระบุในถ้อยแถลงในวันพุธ (11 พ.ย.) ว่าจากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับเกี่ยวกับเคสนี้ ซึ่งนำไปสู่การระงับทดลอง พบว่ามันขาดความสมบูรณ์และไม่มีสาเหตุของการเกิดผลกระทบข้างเคียงรุนแรง พร้อมปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง
“หลังจากประเมินข้อมูลใหม่ที่นำเสนอโดยผู้สนับสนุน อันวิซาเข้าใจว่ามันมีเหตุผลพอเพียงที่จะอนุญาตให้กลับมาทดลองวัคซีน” ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุขของบราซิลกล่าว “มันสำคัญที่ต้องชี้แจงว่าการระงับทดลองใดๆ ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การสืบสวนนั้น ไม่มีคุณภาพ ความปลอดภัยหรือประสิทธิผล” อันวิซาระบุ
ด้าน ซิโนวัค ระบุในถ้อยแถลงว่า “เรามั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน เราเข้าใจเป็นอย่างดีและชื่นชมการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดของอันวิซา และเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับหวรคืนสู่การทดลองทางคลินิก”
บราซิล เป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เลวร้ายที่สุดในโลก ด้วยจนถึงตอนนี้ยืนยันเคสผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 5.7 ล้านคนและเสียชีวิต 163,000 ราย ขณะที่ โบลโซนารู ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกรณีที่เขาดูเบาความรุนแรงของไวรัสมาตลอด
ในวันอังคาร (10 พ.ย.) โบลโซนารู ตอกย้ำจุดยืนเดิม เรียกร้องชาวบราซิลเลิกกลัวไวรัสได้แล้ว พร้อมบอกว่า “วันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี”
(ที่มา : รอยเตอร์)